หลายคนอาจจะเคยรู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่ต้องยิ้มต่อหน้าคนอื่นหรือว่าจะเป็นตอนที่ต้องยิ้มกว้างๆเพื่อถ่ายรูป ตอนยิ้มเซลฟี่ใกล้ๆก็กังวลว่าในรูปตัวเองจะออกมาดูไม่ดี สาเหตุอีกอย่างหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะปัญหาฟันที่มีคราบเหลืองนั่นเอง ก่อนจะไปดูวิธีแก้ที่จะทำให้ฟันของเราหายเหลืองและกลับมาขาว ยิ้มได้มั่นใจขึ้น เรามาดูสาเหตุที่ทำให้ฟันของเราเหลืองกันเถอะ
สาเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง
1. ฟันผุ เมื่อฟันของเราผุจะพบว่ามีสีที่เหลืองเข้ม หรือก็คือสีน้ำตาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟันหน้าทำให้มองเห็นสีของฟันที่เปลี่ยนไปได้อย่างชัดเจน ดังนั้นควรรักษาด้วยกันอุดฟัน
ฟันผุเกิดจากอะไร ??
เกิดจากการรวมตัวกันของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก โดยน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตที่เรารับประทานเข้าไปจะกลายเป็นอาหารให้กับเชื้อแบคทีเรีย หากไม่ทำความสะอาดให้ดี เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้จะปล่อยกรดออกมาทำลายเคลือบฟัน เมื่อสะสมนานเข้าก็จะส่งผลให้เคลือบฟันเสียหายจนเกิดปัญหาฟันผุตามมาได้
2. ดื่มเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีสีเป็นประจำบ่อยๆ อย่างเช่น คนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน การดื่มกาแฟบ่อยๆก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเช่นกัน
วิธีการ ควรใช้หลอดเพื่อลดการสัมผัสระหว่างเครื่องดื่มและฟันหลังจากทานเสร็จ ควรดื่มน้ำเปล่าตาม
หลีกเลี่ยงการทานอาหารเครื่องดื่มบางชนิดที่เป็นกรด เช่น โซดา มะนาว ที่สามารถกัดกร่อนสารเคลือฟัน ทำให้ฟันสามารเปลี่ยนสีได้
3. การสูบบุหรี่ ควันบุหรี่มีสารเคมีเยอะมาก ทั้งนิโคติน อะโครไลน์ อะเซทัลเดไฮด์ โพลีอะโรมาติก ฯลฯ โดยนิโคตินเมื่อสัมผัสเข้ากับอากาศแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง อีกทั้งสามารถซึมเข้าผิวฟันของเราได้ด้วย ผิวฟันนั้นจริงๆมีรูเล็กๆที่มองไม่เห็นคล้ายกับผิวหนังของเรา นี่ก็คือเหตุผลว่าทำไปสูบบุหรี่เยอะๆ แล้วทำให้ฟันของเราเหลือง
การสูบบุหรี่นั้นทำให้ฟันเหลืองแน่นอน เพียงแต่จะเหลืองมากเหลืองน้อย ก็แตกต่างกันไปตามปริมาณการสูบบุหรี่ของแต่ละคน ถ้าสูบไม่มากก็จะเหลืองไม่มาก และถ้าหมั่นแปรงฟันอยู่เสมอ รวมทั้งไปพบทันตแพทย์บ่อยๆ ก็จะช่วยเอาคราบเหลืองออกได้ แต่ถ้าสูบเป็นประจำทุกวัน วันละหายๆครั้งแล้วยังไม่ค่อยแปรงฟันอีก จะทำให้มีคราบเหลืองเยอะมาก และปกติคราบบุหรี่ก็กำจัดยากอยู่แล้ว ด้วยความที่คราบเหลืองนั้นฝังลงลึกไปในผิวฟันของเรา
4. การได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป จนทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลปนขาวบนฟัน หรือที่เรียกว่า ฟันตกกระ ซึ่งไม่สามารถทำให้ฟันขาวโดยการฟอกสีฟันได้ ควรทำครอบฟันหรือวีเนียร์
ทำไมการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปถึงกลายเป็นโทษ ??
ฟลูออไรด์นั้นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฟันเกิดการตกกระ เมื่อได้รับในปริมาณที่มากเกินไป โดยส่วนใหญ่ เป็นการสะสมมาตั้งแต่เด็ก เมื่อฟลูออไรด์เข้าสู่กระแสเลือดจะเข้าไปขัดขวางการสร้างชั้นเคลือบฟัน ซึ่งเมื่อชั้นเคลือบฟันถูกหยุดทำงานไปในระยะเวลานาน ทำให้ผิวฟันมีรูพรุนและมีสีขาวเหลือง หรือสีออกน้ำตาล ขึ้นอยู่กับความรุนแรง
วิธีป้องกัน
- ดื่มน้ำต้มสุกหรือว่าน้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำ เนื่องจากน้ำอาจะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์มาก
- ทานเครื่องดื่มที่มีแคลเซียม เนื่องจากแคลเซียมจะเข้าไปปรับสมดุลกับฟลูออไรด์ที่อยู่ในร่างกาย
- ไม่ควรแปรงฟันบ่อยเกินไปหรือใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยๆต่อวัน เนื่องจากจะทำให้ได้รับฟลูออไรด์มากเกินความจำเป็น
5. ฟันตาย ฟันตายก็คือการที่ฟันของเราผุและถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ทำให้ลุกลามไปจนถึงโพรงประสาทฟัน หรืออาจจะเป็นการประสบอุบัติเหตุทำให้ฟันถูกกระแทกอย่างแรง เกิดการฟันแตกหรือบิ่น มีการฉีกขาดของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงฟัน หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการดึงประสาทฟันออก ฟันก็จะยิ่งมีสีคล้ำมากขึ้น
ฟันตายคืออะไร ??
ฟันตาย คือฟันที่ไม่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงในโพรงประสาทฟัน ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในฟันตายไป
อาการที่สังเกตุได้เมื่อมีฟันตาย
- ฟันเปลี่ยนสีคือ มีสีที่คล้ำขึ้น
- มีตุ่มหนองที่เหงือก เหงือกบวมหรือกดเจ็บบริเวณปลายรากฟัน
- มีอาการเคี้ยวเจ็บหรือ กัดเจ็บ ซึ่งเกิดจากอาการอักเสบรอบปลายรากฟัน
- เคยมีอาการเสียวฟันมากๆเมื่อมีสิ่งกระตุ้น เช่น ทานน้ำร้อน น้ำเย็น แต่อยู่ ๆ ก็ไม่รู้สึก นั่นอาจเป็นสัญญาณของฟันตาย
สาเหตุที่ทำให้ฟันตาย
- ฟันผุ ฟันสึก จนถึงโพรงประสาทฟัน
- ฟันได้รับอุบัติเหตุหรือได้รับการกระแทกอย่างแรง ทำให้เลือดที่มาเลี้ยงฟนฉีกขาด
- ฟันร้าวหรือ ฟันแตก จากการใช้งานเกิดจากคนที่ชอบเคี้ยวอะไรแข็งๆ หรือว่า นอนกัดฟัน เป็นต้น
- เป็นโรคปริทันต์ขั้นรุนแรง
6. ฟันมีสีผิดปกติมาตั้งแต่เกิด อาจะเกิดจากเป็นโรคหรือการได้รับยาบางชนิดมากเกินไป และเป็นยาที่ส่งผลต่อสีของฟัน โดยเฉพาะช่วงที่มีการสร้างฟันแท้ในเด็กอายุ 3-12 ปีทำให้ฟันมีคราบเหลืองแทบทุกซี่ หรือมีแถบสีเทาดำเห็นชัดเจน
7. กรรมพันธุ์และช่วงอายุ ตามธรรมชาติฟันของคนจะขาวหรือเหลืองน้อย เหลืองมาก ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ด้วย อย่างเช่น คนที่มีผิวดำจะมีฟันที่ขาว รวมไปถึงคนที่มีอายุมากขึ้นโอกาสที่ฟันจะยังคงความขาวก็ยิ่งมีน้อยลง เนื่องจากเคลือบฟันบางลงตามอายุขัย ทำให้สีเหลืองของชั้นเนื้อฟันนั้นเห็นชัดมากขึ้น
8. โรค โรคบางชนิดก็สามารถทำให้สีของฟันเปลี่ยนไปได้ หรือไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ของคุณแม่ก็เป็นสาเหตุทำให้ฟันมีสีเหลืองได้เช่นกัน
โรคและการใช้ยา การป่วยหรือการได้รับยาบางอย่างที่ใช้เป็นสาเหตุของฟันเหลืองได้เช่นกัน อย่างเช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่จะต้องใช้เคมีในการบำบัด หรือโรคที่เกี่ยวกับถุงน้ำดี ส่วนยารักษาที่มีผลทำให้ฟันเหลือง ยกตัวอย่างเช่น ยารักษาโรคหอบหืด ยาโรคความดันโลหิตสูง
9. การจัดฟัน การจัดฟันก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่คาดไม่ถึง เนื่องจากการดัดฟันมีอุปกรณ์ที่ยึดติดฟัน เช่น แร่เงิน มัลกัม ซึ่งวัสดุจะทำให้สีของฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้
วิธีดูแลสุขภาพฟันที่ดี
....จากที่ได้พูดถึงสาเหตุของฟันเหลืองแล้วจะเห็นได้ว่าการที่ฟันผุก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฟันของเรานั้นเหลืองหรือมีสีที่คล้ำขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นการดูแลสุขภาพฟันที่ดีมีอะไรบ้าง....
- เลือกแปรงสีฟันที่มีคุณภาพที่ดี
เลือกใช้แปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม ปลายเรียงแหลม มีประสิทธิภาพในการซอกซอน และที่สำคัญคือควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก 3 เดือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่ดี
- เลือกยาสีฟันที่มีประสิทธิภาพสูง
ยาสีฟันที่เลือกใช้มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ สามารถเลือกดูได้จากของกล่องของผลิตภัณฑ์ ไม่ควรต่ำกว่า 1000 PM ของปริมาณฟลูออไรด์
- แปรงฟันให้ถูกวิธี
การแปรงฟัน คือวิธีการรักษาควาสะอาดของช่องปากที่สำคัญและไม่ควรละเลย เพราะถ้าหากไม่แปรงฟันให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ และผิดวิธี อาจทำไปสู่ปัญหาสุขภาพช่องปาก
วิธีแปรงฟันให้ถูกวิธี
- ฟันด้านนอก
- วางขนแปรงเข้าหาฟันให้ขนแปรงอยู่บริเวณขอบเหงือกโดยเอียงทำมุม 45 องศากับตัวฟัน
- ขยับแปรงไปมาทางด้านหน้าและด้านหลัง เป็นระยะสั้นๆไม่เกินครึ่งซี่ฟัน
- ปัดแปรงขึ้นสำหรับฟันล่างและปัดลงสำหรับฟันบน
- ในแต่ละตำแหน่งควรแปรงประมาณ 10 ครั้ง
- ฟันด้านใน
- วางขนแปรงบริเวณขอบเหงือกและฟัน ทำเช่นเดียวกันกับฟันด้านนอก
- ฟันด้านบดเคี้ยว
- วางขนแปรงบริเวณด้านบดเคี้ยวของฟัน ถูไปมาในแนวหน้าหลังทั้งฟันบนและฟันล่าง
- ฟันหน้าด้านใน
- วางแปรงสีฟันในแนวตั้ง ใช้ปลายของแปรงสีฟัน แปรงด้านหลังของฟันหน้าแต่ละซี่โดยขยับและปัดปลายขนแปรงมาทางปลายขอบฟันทั้งฟันหน้าบนและฟันหน้าล่าง
- ใช้ไหมขัดฟัน
การดูแลสุขภาพช่องปากวิธีการที่ควบคู่ไปด้วยเลยก็คือการใช้ไหมขัดฟัน โดยปกติแล้วการแปรงฟันปกติอาจจะไม่ทั่วถึง เพราะแปรงไม่สามารถซอกซอนเข้าไประหว่างซอกฟันได้ ควรใช้ทุกวันและใช้ไหมขัดฟันให้ครบทุกซี่
วิธีใช้ไหมขัดฟัน
- ดึงไหมขัดฟันออกมา ความยาวประมาณ 18 นิ้ว โดยพันที่นิ้วกลางทั้ง 2 ข้าง และดึงไหมขัดฟันให้ตึง
- ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับไหมขัดฟันแล้วค่อยๆเลื่อนไหมขัดฟันลงระหว่างซอกฟัน
- โอบไหมขัดฟันรอบตัวฟันแต่ละซี่และเลื่อนเส้นไหมลงใต้เหงือกแล้วเคลื่อนไหมขึ้นไปทางปลายฟัน ทำแบบนี้ซ้ำ 4 – 5 ครั้ง
….เมื่อทุกคนได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ฟันของเราเหลืองแล้วเรามาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะทำให้ฟันของเราหายเหลือง….
วิธีทำให้ฟันขาว
1. ใช้สมุนไพรในการขัดฟัน
การใช้สมุนไพรก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ฟันขาว สิ่งเหล่านี้มีสารในการขจัดคราบสิ่งสกปรกบนฟันสามารถช่วยให้คราบนั้นหลุดออกไปได้ แต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผล
- ใช้มะนาว
น้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด และคุณสมบัติที่เหมือนสารฟอกขาวนั่นเอง เมื่อคั้นน้ำออกมาผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เท่ากันจากนั้นนำไปถูฟัน ก็จะช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้
- ใช้เปลือกส้ม
นำเปลือกส้มไปตากแดดให้แห้งสนิท จากนั้นนำมาบดให้ละเอียดแล้วนำไปใช้แปรงฟัน ตามด้วยทำความสะอาดฟันด้วยยาสีฟันธรรมดาอีกครั้ง หรือ ถ้าหากไม่มีเวลามากพอ อาจใช้เปลือกส้มสดๆมาถูกับฟันเพื่อขจัดคราบแทนก็ได้
- ใช้ใบไม้และกิ่งข่อย
มีสารในการขจัดคราบสกปรกบนฟัน ช่วยให้คราบบนฟันนั้นหลุดออกไปได้ เพียงแต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องและไม่ควรที่จะขัดแรงเกินไป เพราะอาจจะทำให้เคลือบฟันเกิดการเสียหายได้
- ใช้เปลือกกล้วย
ในเปลือกกล้วยมีแร่ธาตุโพแทสเซียม แมงกานีส แมกนีเซียม ทำให้เชื่อกันว่า เปลือกกล้วยก็สามารถขัดใหห้ฟันขาวได้อยู่เหมือนกัน วิธีการใช้คือนำเปลือกกล้วยด้านใน มาขัดถูที่ฟันให้ทั่ว นาน 1 นาที เป็นประจำทุกวัน
- ใช้แอปเปิล
เนื่องจากแอปเปิลเป็นผลไม้มีกรดอ่อนๆ และกรดดังกล่าวมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดผิวฟัน โดยเฉพาะคราบเหลืองจากชา กาแฟ หรืออาหารที่เรารับประทานเข้าไป โดยหลังจากที่ทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้เข้าไป เมื่อกินแอปเปิลหลังจากทานแล้ว ทั้งกรดและกากใยในแอปเปิลจะทำหน้าที่ขัดถูคราบเหลืองบนผิวฟัน แต่หลังจากที่ทานแอปเปิลเข้าไปแล้วควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งเพื่อชะล้างคราบน้ำตาลที่ติดมากับแอปเปิล
- ใช้แครอท
ถ้าสังเกตจากกระต่ายที่ชอบกินแครอทเป็นชีวิตจิตใจแล้ว จะเห็นว่ากระต่ายนั้นมีฟันที่ขาวสะอาดไร้คราบเหลือง นั่นเป็นเพราะว่าแครอทมีกรดอ่อนๆที่ช่วยทำความสะอาดผิวฟันของเราได้ไม่แพ้สรรพคุณของแอปเปิล
2. รับประทานผักผลไม้
เหตุผลเพราะผลไม้มีกากและเส้นใยจำนวนมาก เมื่อเคี้ยวเส้นใยต่างๆ เส้นใยก็จะช่วยขจัดคราบต่างๆบนฟันให้หลุดออก และผลไม้บางชนิดอย่างเช่น มะละกอ หรือสับปะรด ยังมีเอนไซม์ที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้น
3. ใช้ผงฟู หรือ Baking Soda
หลายคนอาจไม่รู้ว่ายาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวส่วนใหญ่มีผลฟูเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากผงฟูมีคุณสมบัติช่วยขจัดคาบสกปรกบนผิวฟันได้ ทั้งยังช่วยยังยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลดคราบจุลินทรีย์ และป้องกันฟันผุ
วิธีการใช้ ใช้ผงฟู 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำเปล่า 2 ช้อนชาแทนยาสีฟัน แปรง 2-3 นาที ประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ฟันขาวขึ้น
4. ขูดหินปูนเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน
คราบเหลืองที่เราพบเห็นบนฟันของเรา อาจเกิดมาจากหินปูนที่สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นวิธีง่ายๆ คือการไปพบทันตแพทย์เพื่อกำจัดคราบหินปูน
5. การทำความสะอาดลิ้น
ลิ้นของเราอาจจะไม่ได้รับการทำความสะอาดที่เพียงพอ ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และเกิดคราบเหลืองที่ฟันของเรา
วิธีการแปรงลิ้น
การแปรงที่ลิ้นเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นปาก โดยการปัดขนแปรงสีฟัน จากโคนลิ้นมาทางปลายลิ้นประมาณ 10 ครั้ง
6. ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเครื่องดื่มและการสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการทานเครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ อาหารหรือผลไม้ที่มีสีจัด และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เพราะสิ่งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฟันมีคราบเหลือง
7. การขัดฟัน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยขจัดคราบต่างๆ ที่เกาะอยู่บนฟันหลังจากขูดหินปูน การที่ฟันมีสีเหลืองเกิดคราบ เมื่อขัดแล้วคราบก็จะหายไป และกลับมาขาวเหมือนเดิม อีกทั้งช่วยให้ฟันมีผิวเรียบ ทำให้คราบต่างๆมาเกาะจับฟันได้ยากขึ้น (การขัดฟันไม่ได้ทำให้ฟันบางอย่างที่หลายคนเข้าใจ)
8. ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกฟัน
การใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกฟันเป็นวิธีแรกๆที่คนที่มีฟันเหลืองนิยมใช้กันเป็นส่วนมาก เพราะใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถทำให้ฟันกลับมาขาวได้แล้ว สามารถทำได้โดยการไปพบทันตแพทย์ หรือทางเลือกอีกอย่างนั่นก็คือ ฟอกฟันเอง การฟอกฟันเองโดยใช้เครื่องฟอกฟันเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็วประหยัดเวลา สามารถทำเองได้ที่บ้าน การฟอกฟันนั้นส่งผลให้สีที่สะสมอยู่ในตัวฟันของเราแตกตัวออกมา ทำให้ฟันของเรากลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง เพียงแค่นี้ก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ความเข้าใจผิดที่ว่าฟันเหลืองกำลังบ่งบอกถึงสุขภาพที่ไม่ดีของฟันหรือเปล่า
ถ้ามีอาการอื่นร่วมด้วยอย่างเช่น อาการเมื่อแปรงฟันแล้วมีเลือดออกตามไรฟันหรือรู้สึกปวดฟัน อาการเหล่านี้อาจแสดงถึงการมีปัญหาสุขภาพของฟัน แต่ถ้าไม่ได้มีอาการแทรกซ้อนแต่อย่างใด ดังนั้นการที่ฟันมีสีเหลืองก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่น่ากลัวหรือวิตกกังวล อีกทั้งยังสามารถแก้ไขได้อีกด้วย
สนใจสั่งซื้อเครื่องฟอกฟันคลิกที่ลิ้งค์ได้เลย: https://lineeprofessional.com/