ความอันตรายของการได้รับฟลูออไรด์ที่เยอะเกินไป

ความอันตรายของการได้รับฟลูออไรด์ที่เยอะเกินไป



ฟลูออไรด์เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพฟัน โดยเฉพาะในการป้องกันฟันผุ และเสริมสร้างความแข็งแรงของเคลือบฟัน แต่หากได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่เยอะเกินไป อาจทำให้เกิดผลกระทบทางสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ใหญ่บางกลุ่ม

 ผลกระทบของการได้รับฟลูออไรด์เกินไป

  1. อาการผิวหนัง
  • ผื่นคัน (Rash): มีผื่นแดงและคันบนผิวหนัง ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำเล็ก ๆ
  • ผิวแห้งและลอก (Dry and Flaky Skin): บางครั้งอาจมีผิวแห้งและลอกเป็นแผ่น

      2.อาการทางเดินอาหาร

  • ปวดท้อง (Stomach Pain): อาการปวดท้องหรือไม่สบายท้อง
  • คลื่นไส้และอาเจียน (Nausea and Vomiting): มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนหลังจากได้รับฟลูออไรด์
  • ท้องเสีย (Diarrhea): มีอาการท้องเสียซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังจากการรับประทานหรือดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์สูง

      3. อาการทางระบบทางเดินหายใจ

  • หายใจลำบาก (Difficulty Breathing): บางคนอาจมีอาการหายใจลำบากหรือหายใจไม่สะดวก
  • หายใจมีเสียงหวีด (Wheezing): มีเสียงหวีดเวลาหายใจซึ่งเป็นสัญญาณของการหดตัวของทางเดินหายใจ

     4. อาการทางระบบประสาท

  • ปวดศีรษะ (Headache): อาจมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย
  • เวียนศีรษะ (Dizziness): รู้สึกเวียนศีรษะหรือหน้ามืด

    5. อาการทางระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ

  • ปากแห้ง (Dry Mouth): รู้สึกปากแห้งหรือคอแห้ง
  • รสชาติเปลี่ยนแปลง (Altered Taste): รู้สึกว่ารสชาติอาหารหรือเครื่องดื่มเปลี่ยนแปลง

 แหล่งของฟลูออไรด์

ฟลูออไรด์สามารถได้รับจากหลายแหล่ง เช่น น้ำดื่มที่ผ่านการเติมฟลูออไรด์ อาหารบางชนิด ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และการรักษาทางทันตกรรม เพื่อป้องกันการได้รับฟลูออไรด์เกินไป ควรตรวจสอบปริมาณฟลูออไรด์ที่ได้รับจากแหล่งต่างๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์

การจัดการและป้องกัน

หากคุณสงสัยว่าคุณหรือคนในครอบครัวอาจมีอาการแพ้ฟลูออไรด์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรับคำแนะนำในการจัดการ การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีฟลูออไรด์ เช่น ยาสีฟัน, น้ำยาบ้วนปาก, และน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์สูง อาจช่วยลดอาการแพ้ได้

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์และมีสารทางเลือกอื่น เช่น Hydroxyapatite สามารถเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อป้องกันฟันผุโดยไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้


ยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์ แต่มีสาร Hydroxyapatite ทดแทน

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการได้รับฟลูออไรด์เกินไป มีการพัฒนายาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์ แต่ใช้สาร hydroxyapatite ทดแทน ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับฟลูออไรด์ในการเสริมสร้างและป้องกันฟัน

 Hydroxyapatite คืออะไร?

Hydroxyapatite เป็นแร่ธาตุธรรมชาติที่มีอยู่ในกระดูกและฟันของมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการสร้างความแข็งแรงและการฟื้นฟูของเนื้อฟัน โดย hydroxyapatite สามารถเชื่อมโยงกับโครงสร้างฟัน ทำให้ฟันมีความแข็งแรงและทนทานต่อการผุ

คุณสมบัติของ Hydroxyapatite ในยาสีฟัน

1. **การฟื้นฟูเนื้อฟัน**: Hydroxyapatite สามารถเชื่อมโยงกับเคลือบฟัน ช่วยในการซ่อมแซมรอยแตกเล็กๆ บนผิวฟัน และเสริมสร้างความแข็งแรงของฟัน

2. **การป้องกันฟันผุ**: Hydroxyapatite ช่วยในการลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ และป้องกันการสร้างคราบหินปูน

3. **ความปลอดภัย**: Hydroxyapatite เป็นสารธรรมชาติที่ไม่เป็นพิษและไม่มีผลกระทบต่อระบบร่างกาย ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงฟลูออไรด์

การใช้ยาสีฟันที่มี Hydroxyapatite

การเลือกใช้ยาสีฟันที่มี hydroxyapatite แทนฟลูออไรด์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการได้รับฟลูออไรด์เกินไป หรือมีปัญหาสุขภาพที่ต้องหลีกเลี่ยงฟลูออไรด์ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาทันตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพฟันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ในสรุป การได้รับฟลูออไรด์เกินไปสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้หลายประการ การเลือกใช้ยาสีฟันที่มี hydroxyapatite เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุและเสริมสร้างความแข็งแรงของฟันในระยะยาว 

หากใครต้องการเปลียนมาใช้ยาสีฟันไม่มีฟลูออไรด์ แต่มี  Hydroxyapatite แบบเข้มข้น อยากให้ลองเปิดใจกับ Linee Day & Night Whitening Toothpaste  

1 กล่องให้ถึง 2 หลอด สูตรเช้าและสูตรกลางคืน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความหนา ให้กับหน้าฟัน ช่วยทำความสะอาดกลิ่นปาก คราบหินปูน และแบคทีเรียต่างๆได้อย่างหมดจด พร้อมไม่ทำให้เกิดอาการแพ้จากฟลูออไรด์อีกด้วย

 

ใครที่สนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาสีฟันของ ลินี สามารถสอบถามได้ที่

Line OA : @lineeteeth 

Facebook: Linee Professional Teeth whitening 

Instagram: Lineeteeth 

 

 

Back to blog