เผยเคล็ดลับ Enjoy Eating กินอย่างไรไม่ทำลายฟันขาว

เผยเคล็ดลับ Enjoy Eating กินอย่างไรไม่ทำลายฟันขาว

สำหรับคนรักสุขภาพช่องปาก อยากรักษาฟันขาวให้อยู่กับเราไปอีกนาน ๆ วันนี้เราเตรียมเคล็ดลับดี ๆ สุดพิเศษเกี่ยวกับการกินมาฝาก

  1. ดื่มน้ำอย่าง 8 – 10 แก้ว หรือเฉลี่ย 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน นอกจากดีต่อสุขภาพกายแล้วยังดีต่อช่องปาก ทำให้มีน้ำลายมากพอที่จะลดความเป็นกรดในปาก และป้องกันฟันผุ

  1. จำกัดการบริโภคน้ำตาลและขนม เนื่องจากแบคทีเรียในช่องปากต้องการน้ำตาลในการผลิตกรดที่ทำให้ผิวฟันบางลงเพื่อทำลายเนื้อฟัน

  1. บริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งคือสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพฟันและเหงือก

  1. ตบท้ายมื้ออาหารด้วยผลไม้กรอบอร่อย เช่น แอปเปิ้ล สาลี่ เพื่อช่วยกำจัดเศษอาหารตามซอกฟัน และการเคี้ยวยังช่วยผลิตน้ำลายมาปกป้องฟันด้วย

  1. ถ้าคุณต้องการดื่มน้ำอัดลมหรือแอลกอฮอล์ แต่ยังอยากรักษา ให้ใช้หลอดดูดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เครื่องดื่มสัมผัสกับฟันของคุณโดยตรง

  1. ลดการรับประทานของเปรี้ยวหรือหวานจัด แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้หลังมื้ออาหารควรรีบแปรงฟัน หรือถ้าไม่สะดวกให้ลองหาที่บ้วนปาก หรือเคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาลเพื่อลดความเป็นกรดในปากที่อาจทำลายเคลือบฟัน และทำให้เสียวฟันได้

  1. การเคี้ยวหมากฝรั่งที่ไม่มีน้ำตาลเป็นเวลา 10 นาทีหลังมื้ออาหารและหลังรับประทานของว่างช่วยลดโอกาสเกิดฟันผุได้
  2. ถ้าเป็นไปได้ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกครั้ง และหลังแปรงฟัน 30 นาทีอย่าเพิ่งดื่มหรือรับประทานอะไรเพิ่ม เพื่อให้ยาสีฟันทำหน้าที่เคลือบรักษาฟัน

  1. เลือกกินอาหารประเภทส่งเสริมฟันขาวสุขภาพดี ดังนี้
  • อาหารมีเส้นใย เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ อะโวคาโด ผักบุ้ง ข้าวกล้อง ที่ระหว่างเคี้ยวจะช่วยขจัดเศษอาหาร และคราบที่ติดอยู่บนฟัน

  • อาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น งา มะละกอ แครอท เพราะวิตามินเอจะช่วยการก่อรูปของผิวเคลือบฟัน ช่วยให้ฟันขาวขึ้น

  • เลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพราะมีฟอสฟอรัส ที่เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของฟัน

  1. ระวังการเคี้ยวอาหารที่แข็งเกินไป การเคี้ยวเป็นเรื่องดีช่วยผลิตน้ำลาย แต่ถ้าอาหารแข็งเกินไป ชิ้นใหญ่ไป ควรตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วเคี้ยวอย่างระมัดระวัง อาหารประเภทเมล็ดพืช หรือผลไม้ที่แข็งเกินไปสำหรับเราให้ผลร้ายไม่ต่างอะไรกับการเคี้ยวโดนก้อนกรวดเล็ก ๆ ทำให้ฟันแตก บิ่น เป็นรอยร้าวได้อย่างน่ากลัว

  1. ระวังเครื่องดื่มที่ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป เช่น กาแฟร้อน ไอศกรีม เพราะอุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไปจะกระตุ้นให้เกิดการเสียวฟันหรือปวดหันได้

  1. ใครที่ติดบุหรี่ ต้องสูบหลังมื้ออาหาร ควรลด ละ เลิก เพราะมันจะช่วยคุณจากความเสี่ยงในการเกิดกลิ่นปาก โรคเหงือกและฟันอื่น ๆ รวมทั้งโรคมะเร็งช่องปาก


และสำหรับใครที่จัดฟันก็ไม่ต้องกังวลไป ต่อให้มีเครื่องมืออยู่ในปาก แต่เราก็สามารถ Enjoy Eating ได้

เช่นกัน ถ้าคุณทำตามคำแนะนำดังนี้

  1. ปกติการเคี้ยวน้ำแข็งเป็นเรื่องที่คนรักสุขภาพฟันไม่ควรทำอยู่แล้ว แต่สำหรับคนจัดฟันแล้วยิ่งเป็นข้อห้าม เพราะอาจทำให้ลวดจัดฟันงอผิดรูป แบร็คเก็ตหลุดจนต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อจัดแต่งเครื่องมือใหม่
  2. การเคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาลหลังมื้ออาหารเป็นเรื่องดี แต่สำหรับคนัดฟันแล้วควรหลีกเลี่ยง เพราะความเหนียวของหมากฝรั่งจะทำให้อุปกรณ์ดัดฟันในช่องปากหลุด เลื่อน และเสียหายได้
  3. อย่าลืมถอดยางรัดฟันที่เกี่ยวฟันกรามก่อนรับประทานอาหาร เพราะนอกจากจะทำให้รับประทานอาหารลำบากแล้วถ้าไม่ถอดนอกจากจะทำให้ทานอาหารลำบาก เลอะเทอะเมื่อขณะกิน เเล้วยังมีโอกาสที่คุณจะกลืนหนังยางลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจได้อีกด้วย
  4. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและกรดคาร์บอเนตมากเกินไป เช่น น้ำอัดลม อาจทำลายกาวที่ยึดอุปกรณ์จัดฟันของคุณได้ ทำให้เสี่ยงที่จะเครื่องมือคลายตัวจนต้องไปพบทันตแพทย์ แต่ถ้าคุณจัดฟันแบบใส น้ำตาลและกรดจะเข้าไปสะสมอยู่ในเครื่องมือจัดฟันของคุณ ทำให้ผิวฟันถูกทำลายได้เช่นกัน

ถ้าทุกๆคน ค่อย ๆ ทำตามคำแนะนำเหล่านี้ให้ติดเป็นนิสัย แล้วคุณจะได้ Enjoy Eating พร้อมกับมีฟันขาวสะอาด ให้ยิ้มอย่างมั่นใจไปอีกนาน ๆเลยล่ะ

Back to blog