ชาว Linee สังเกตกันไหมคะว่า เกลือ มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพช่องปากมากมายอย่างคาดไม่ถึง ในปัจจุบันมียาสีฟันสูตรเกลือหลายสูตร หลายสิบยี่ห้อให้เลือกซื้อมาใช้ ในการแพทย์แผนไทยมีการใช้เกลือร่วมกับสมุนไพรต่าง ๆ ในการดูแลสุขภาพช่องปาก ทำให้เกลือไม่ใช่เพียงแค่ของสำคัญคู่ครัว แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการดูแลเหงือกและฟันให้แข็งแรงอย่างคาดไม่ถึง ความเค็มของเกลือสำคัญอย่างไรต่อช่องปาก เรารวบรวมข้อมูลมาฝากกันแล้วค่ะ
“เกลือ” คืออะไร
เกลือ เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นแร่ธาตุที่มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีองค์ประกอบของ โซเดียม (Sodium) และ คลอไรด์ (Chloride) ถ้าได้จากการสกัดน้ำทะเลเรียกว่า เกลือสมุทร (Sea Salt) แต่ถ้าสกัดจากแร่ธาตุในชั้นหินเรียกว่าเกลือสินเธาว์ (Rock Salt) ซึ่งเกลือทั้งสองชนิดนี้มีแร่ธาตุจากธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงด้านการแพทย์ เกลือถูกนำมาใช้เพื่อทำยา และเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทั่วทุกมุมโลก การใช้เกลือเพื่อดูแลสุขภาพช่องปากมีมานานตั้งแต่ยุคโบราณ เป็นสิ่งที่คนนำมาใช้ทำความสะอาดฟัน ถือเป็นยาสีฟันที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ก็ว่าได้
เกลือสมุทร
คือเกลือที่ได้จากการระเหยเป็นไอของน้ำทะเล ถือเป็นเกลือตามธรรมชาติ มีราคาสูงกว่าเกลือชนิดอื่น เพราะในเกลือสมุทรมีแร่ธาตุตามธรรมชาติที่ไม่ถูกทำลายไป เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม โบรไมด์ สตรอนเชียม และที่ขาดไม่ได้คือ ไอโอดีน ตามธรรมชาติ ซึ่งแต่ละแหล่งการผลิตเกลือสมุทรอาจมีค่าไอโอดีนแตกต่างกันไป
เกลือสินเธาว์
เป็นเกลือที่สกัดจากชั้นหิน และในพื้นดิน ที่ในอดีตนับล้านปีเคยเป็นท้องทะเลมาก่อน ซึ่งโดยมากมักเป็นบริเวณที่ยังมีซากฟอสซิลโบราณอยู่ในเนื้อดิน เช่นแถบภาคอีสานของไทย โดยเกลือสินเธาว์ต้องผ่านกระบวนการผลิตที่จะช่วยแยกเกลือสินเธาว์ออกจากเกลืออีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เกลือโพแทสเซียม (Potassium) เกลือสินเธาว์โดยธรรมชาติไม่มีไอโอดีนเหมือนเกลือสมุทรจึงไม่นิยมนำมาใช้ปรุงอาหาร แต่เป็นเกลือที่นิยมนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรม เช่น การผลิตโซดาไฟ ส่วนการใช้ประโยชน์นั้นเกลือหินมักไม่ใช้กับของกิน (ส่วนหนึ่งเพราะมันไม่มีไอโอดีนเหมือนเกลือสมุทรด้วย) แต่ใช้กับกระบวนการอุตสาหกรรม เช่น การผลิต โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) หรือโซดาไฟ และใช้เพื่อละลายหิมะบนทางเท้าในประเทศในยุโรปหรือพื้นที่เขตหนาวเย็นได้อีกด้วย
ประโยชน์ของเกลือที่ควรรู้
- ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุจำเป็น การได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้ดี ไม่เป็นคอพอก ไม่ท้องผูก และไอโอดีนยังช่วยรักษาระดับฮอร์โมนไทรอยด์
- เกลือช่วยลดอาการคันได้ ด้วยการใช้น้ำมันมะกอกผสมเกลือ ทาไปบนผิวหนังบริเวณที่เกิดอาการคัน ทิ้งไว้ครู่หนึ่ง ความคันจะทุเลาลง
- เกลือช่วยลดปัญหากลิ่นเท้าได้ โดยนำเกลือผสมน้ำอุ่นแล้วแช่เท้าไว้ครึ่งชั่วโมง เกลือจะช่วยกำจัดเชื้อโรคที่เท้า ถ้าแช่เท้าด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ กลิ่นเท้าจะลดลง
บ้วนปากด้วย “น้ำเกลือ” ดีต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร ?
ในปัจจุบันมีการทำน้ำเกลือเอนกประสงค์เพื่อพร้อมใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในประโยชน์ของน้ำเกลือก็คือ ใช้เพื่อบ้วนปาก โดยน้ำเกลือถือเป็น สารละลายไอโซโทนิก (Isotonic Solution) คือเป็นสารละลายที่มีแรงดันออสโมซิสเท่ากับเลือด หรือก็คือการที่น้ำเกลือมีความเข้มข้นเทียบเท่าสารละลายที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์ ส่งผลให้น้ำเกลือเหมาะกับการทำความสะอาดช่องปาก โดยการอมน้ำเกลือมีผลดีต่อสุขภาพช่องปากดังนี้
- การอมน้ำเกลือช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ เพราะเกลือจะเพิ่มความเป็นด่างในช่องปาก ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุได้
- การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือในช่วงที่มีอาการเสียวฟัน จะช่วยลาดการเสียวฟันได้ เพราะการที่เกลือช่วยลดความเป็นกรด สาเหตุหนึ่งของการเสียวฟัน
- น้ำเกลือไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุในช่องปาก จึงใช้ได้สำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย
- น้ำเกลือช่วยดึงสารน้ำออกจากเนื้อเยื่อบริเวณที่บวมหรืออักเสบ ช่วยให้อาการดีขึ้น จึงเป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นแผลร้อนใน เหงือกอักเสบ
- เกลือมีค่า pH สูง มีผลทำให้ต่อมน้ำลายถูกกระตุ้น ทำให้มีการผลิตน้ำลายเพิ่มขึ้น ซึ่งดีต่อสุขภาพฟันและเหงือก ทำให้เศษอาหารหลุดออกจากซอกฟันได้ง่าย ด้วยกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย (Self Cleansing Reaction)
- เกลือช่วยลดการเกิดคราบหินปูนได้ เพราะค่า pH ในเกลือช่วยลดความเป็นกรด รักษาสมดุลในช่องปาก
- การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือช่วยลดปัญหาเลือดออกตามไรฟันได้
- ผู้ที่มีอาการเจ็บคอ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส รวมถึงเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ การบ้วนน้ำเกลือช่วยทำให้อาการอักเสบบรรเทาลงได้
- สถาบันวิจัยทางทันตกรรมและกะโหลกศีรษะและใบหน้าแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Institute of Dental and Craniofacial Research) วิจัยพบว่า ในน้ำลายมีฟอสเฟต และแคลเซียม ที่มีส่วนช่วยในการเคลือบฟัน ทำให้ฟันแข็งแรงมากขึ้น และเกลือก็ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลายให้มีมากขึ้นได้
การทำ “น้ำเกลือ” บ้วนปากด้วยตัวเอง
น้ำเกลือสำหรับบ้วนปากเราสามารถจัดเตรียมด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องซื้อ โดยการใช้เกลือป่น 1 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง 250 มิลลิลิตร หรือน้ำ 1 แก้ว คนให้เกลือละลายแล้วใช้อมประมาณ 1 - 2 นาทีแล้วบ้วนทิ้งวันละ 1 – 2 ครั้ง ถ้าเป็นช่วงที่ช่องปากมีปัญหา เช่น เหงือกอักเสบ ปวดฟัน มีแผลในช่องปาก ควรบ้วนน้ำเกลือ 3 – 4 ชั่วโมงครั้ง หลังผ่านไป 2 - 3 วันเมื่อปัญหาในช่องปากบรรเทาลงให้ลดลงเหลือวันละ 1 – 2 ครั้งต่อวัน
ยาสีฟันสูตร “เกลือ” ดีจริงหรือ ?
ยาสีฟันสูตรเกลือส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย กลีเซอรีน เรซิน ซิลิกา และเกลือ หรือโซเดีมยมคลอไรด์ (Sodium chloride) ผสมอยู่ในยาสีฟัน แต่สูตรเกลือบางชนิดก็ใช้ผงฟู หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) ซึ่งถือเป็นเกลือชนิดหนึ่ง โดยเกลือในยาสีฟันจะทำหน้าที่เป็นเหมือนผงขัดฟันที่ช่วยขจัดคราบต่าง ๆ บนผิวฟัน แต่ข้อเสียของยาสีฟันสูตรเกลือคือ น้อยมากที่จะมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ (Fluoride) ที่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่เกลือยังไม่สามารถทดแทนได้
“เกลือ” ช่วยแก้ปัญหากลิ่นปากได้จริงหรือไม่ ?
ต้องเข้าใจก่อนว่า ปัญหากลิ่นปากเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่โดยทั่วไปแบ่งสาเหตุได้ 2 อย่างคือ สาเหตุจากปัจจัยภายในช่องปาก ได้แก่ ฟันผุ เหงือกอักเสบ เกิดแผลในช่องปากขั้นรุนแรง กับสาเหตุจากปัจจัยภายนอกช่องปาก เช่น การสูบบุหรี่จัด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เป็นประจำ จนทำให้เกิดกลิ่นปากสะสม
วิธีรักษาปัญหากลิ่นปากมีหลายขั้นตอน และหนึ่งในสิ่งที่คนพูดถึงคือ การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ ซึ่งถ้าถามว่า เกลือ หรือน้ำเกลือ ช่วยบรรเทาปัญหากลิ่นปากได้จริงหรือไม่ คำตอบคือ จริง ! เพราะเกลือมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปาก และการบ้วนปากด้วยน้ำเกลือช่วยลดเศษอาหารตามซอกฟัน และทำความสะอาดขจัดคราบพลัคบนผิวฟัน ที่นอกจากช่วยลดกลิ่นปากแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดคราบหินปูน และฟันผุได้ด้วย
การบ้วนปากเพื่อลดกลิ่นปาก ควรทำเป็นประจำเช้า – เย็น เป็นประจำ ด้วยการอมน้ำเกลือทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนบ้วนทิ้ง จะช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้ แต่จะได้ผลดีจริงจังก็ต่อเมื่อทำร่วมกับวิธีอื่น ๆ เช่น ดื่มน้ำให้พอเพียง หมั่นทำความสะอาดลิ้น ใช้น้ำยาบ้วนปาก ฯลฯ
“ฟลูออไรด์” คือเกลือชนิดหนึ่ง ?
ฟลูออไรด์คือแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยป้องกันฟันผุ และรู้กันหรือไม่ว่า ฟลูออไรด์ ถือเป็นเกลือชนิดหนึ่ง คือเป็นเกลือของธาตุฟลูออรีน (Fluorine) สามารถพบได้ตามธรรมชาติ เช่น ในดิน น้ำ อากาศ หินแร่ รวมทั้งในอาหารทะเล และพืชผักบางชนิด นั่นหมายถึงว่า ความจริงแล้วในชีวิตประจำวัน จากอากาศที่เราสัมผัส จากน้ำ และอาหารที่เราดื่ม และรับประทานเข้าไปในร่างกาย
โดยฟลูออไรด์จะถูกดูดซึมเข้าไปไปสะสมที่กระดูก และฟันที่อาจยังไม่งอกพ้นเหงือก ส่วนฟันที่งอกขึ้นมาแล้ว ตัวฟันจะได้รับฟลูออไรด์ในลักษณะของการเคลือบผิวฟัน เช่น การใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในการแปรงฟัน หรือเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เป็นต้น ซึ่งการได้รับฟลูออไรด์ไม่จำเป็นต้องได้รับทีละมาก ๆ แต่ควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง จึงจะเป็นผลดีต่อเหงือก และฟัน
“เกลือ” มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่จะทำให้ฟันขาวแข็งแรงอยู่กับเราตราบนานเท่านานไม่ใช่การใช้เกลือเท่านั้น แต่ต้องประกอบด้วยใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ แปรงฟันอย่างถูกวิธี ดูแลสุขภาพช่องปากสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเหงือก และฟันร่วมด้วย