“ยิ้ม" หวานโชว์ “ฟันขาว” แบบไหนเรียกยอด Like ได้รัว ๆ

“ยิ้ม" หวานโชว์ “ฟันขาว” แบบไหนเรียกยอด Like ได้รัว ๆ

 

 

            พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน ให้ความหมายของคำว่า ยิ้ม หมายถึง แสดงให้ปรากฏว่าชอบใจ เยาะเย้ย หรือเกลียดชัง เป็นต้น ด้วยริมฝีปากและใบหน้า  เรียกว่า รอยยิ้ม ถือเป็นด่านแรกของการสร้างความประทับใจ โดยเฉพาะถ้าเป็นยิ้มโชว์ฟันขาว ที่ส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ไม่ว่าจะเจอกันต่อหน้า หรือเพียบแวบแรกที่เห็นรอยยิ้มจากรูปถ่ายทางโซเชียลมีเดีย เห็นแล้วก็อยากยกนิ้วกดไลก์ให้รัว ๆ    แล้วรอยยิ้มของคุณล่ะเป็นแบบไหน ลองไปหาคำตอบด้วยกันเลย

 

  1. ยิ้มกว้าง

          เป็นคนยิ้มสุด ยิ้มทั้งปาก เห็นทั้งฟันทั้งเหงือก ยิ้มไปถึงดวงตา ใครที่ชอบยิ้มกว้าง เปิดเผย เป็นคนมีความกระตือรือร้น ชอบการแสดงออก เอาใจเก่ง แต่บางครั้งมากเกินไปเลยดูเหมือนประจบ  ดูต้องการความรักตลอดเวลา  ถ้าเป็นเรื่องงาน หากได้รับมอบหมายหน้าที่ใด จะพยายามเต็มที่ เป็นคนชอบการแต่งตัว ฉะนั้นอย่าแปลกใจที่จะเสียเงินไปกับเรื่องแฟชั่นเยอะ 

 

 

 

  1. ยิ้มตาหยี

          ใครที่ชอบยิ้มจนตาหยี ส่วนใหญ่เป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี มองโลกในแง่บวก จิตใจอ่อนโยน มีทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต และค่อนข้างเปิดเผย จริงใจ แม้เผชิญหน้ากับเรื่องไม่ดีมากแค่ไหนก็ยังมีกำลังใจ พร้อมจะยิ้มและหัวเราะเพื่อปลอบใจตัวเองและคนอื่น ใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกอุ่นใจ

 

 

 

  1. ยิ้มบาง ๆ

          ถ้าคุณเป็นคนชอบยิ้มบาง ๆ แบบที่ทำให้หน้าดูเหมือนมีรอยยิ้มแต้มอยู่เสมอ มันบ่งบอกว่าคุณเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี เป็นกันเอง ค่อนข้างฉลาด มีไหวพริบ ปรับตัวเก่ง เป็นคน เอ็กซ์โทรเวิร์ต (Extrovert) ชอบอยู่ท่ามกลางผู้คน สนุกกับการไปไหนมาไหนเป็นหมู่คณะ

 

 

 

  1. ยิ้มยั่วยวน

          เป็นการยิ้มที่จะพบในผู้หญิงได้บ่อยกว่าผู้ชาย เป็นรอยยิ้มที่ส่งความรู้สึกท้าทายออกมา เห็นได้บ่อยในภาพนางแบบหรือนายแบบจากนิตยสารแฟชั่น แต่สำหรับคนที่ชอบยิ้มยั่วยวนในชีวิตจริง มักเป็นคนที่อินกับเรื่องความรัก ความรู้สึกมากเป้นพิเศษ ชอบเรื่องสวย ๆ งาม ๆ เก่งศิลปะ ค่อนข้างฟุ้งฝัน  

 

 

  1. ยิ้มเม้มปาก

          การยิ้มเม้มปากจะเป็นการยิ้มแบบไม่เห็นฟัน มีเพียงรูปปากที่แย้มออก แสดงถึงการเป็นคนระมัดระวังตัวเองสูง มีโลกส่วนตัว บางครั้งชอบอยู่คนเดียว คนภายนอกดูว่าเป็นคนช่างเก็บตัว  บ่อยครั้งเลยทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะรู้สึกเข้าถึงยาก  ทั้งที่จริง ๆ อาจเป็นแค่คนขี้อายที่เข้าสังคมไม่เก่ง และรักสันโดษเท่านั้นเอง

     

 

  1. ยิ้มเยือกเย็น

          ใครที่ชอบยิ้มแบบไม่สุด ยิ้มแบบที่เห็นเป็นรอยยิ้มบาง ๆ ที่ริมฝีปาก แต่รอยยิ้มไปไม่ถึงดวงตา ทำให้ดูเยือกเย็น ส่วนใหญ่จะค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง มีระเบียบ การควบคุมตัวเองสูง  น่าเชื่อถือ  พูดน้อยแต่คิดเยอะ ส่วนลึกของจิตใจไม่ได้มั่นคงเหมือนที่แสดงออก ใจเย็น อ่อนไหวง่าย แต่ไม่ค่อยแสดงให้ใครรู้ เพราะกลัวจะโดนทำให้รู้สึกแย่จึงเลือกยิ้มเยือกเย็นเพื่อปิดบังตัวเอง

 

 

  1. ยิ้มหน้าทะเล้น

          คนที่เวลาถ่ายรูปแล้วชอบยิ้มทำหน้าทะเล้น ตลก ๆ หรือแปลก ๆ มากกว่าหน้ายิ้มหล่อสวยปกติ  ดูเผิน ๆ เป็นคนขี้เล่น เฮฮา สนุกสนาน  เข้ากับทุกคนได้ดี ดูชิล ๆ อะไรก็ได้ แต่ส่วนลึกของหัวใจเป็นคนอ่อนไหว ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง และมีน้อยคนที่จะคบแบบสนิทใจจริงๆ

 

 

  1. ยิ้มมุมปาก

          คือการยิ้มด้วยมุมปากข้างเดียว ใช้มุมปากข้างหนึ่งยกยิ้มสูงขึ้น ขณะที่มุมปากอีกด้านอยู่ในระนาบปกติ  เป็นรอยยิ้มที่คนเห็นมักรู้สึกถึงความไม่จริงใจเพราะการยิ้มแค่มุมปากมันดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ และคนยิ้มมุมปากมักสื่อถึงการเป็นคนเข้าใจยาก จิตใจซับซ้อน อารมณ์แปรปรวน แต่มีข้อดีคือเป็นคนมีความคิดลึกซึ้ง และคิดได้ในมุมที่หลายคนคิดไม่ถึง เป็นคนมีจิตวิทยาดี  พูดจาโน้มน้าวจิตใจเก่ง

           

 

  1. ยิ้มปุ๊บปั๊บ

          การยิ้มลักษณะนี้คือการยิ้มเร็วแล้วก็หุบยิ้มเร็วจนทำให้ดูเหมือนกระตุกยิ้ม แสดงว่าปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบยิ้ม การยิ้มจึงดูเป็นไปตามมารยาทมากกว่าความรู้สึกจริง ๆ คนที่ชอบยิ้มแบบนี้บ่งบอกว่าเป็นที่ความรู้สึกไว ตื่นเต้นง่าย  และรู้สึกกังวลกับสิ่งที่ไม่แน่ไม่นอน เพราะชอบอะไรที่ชัดเจนมากกว่า     

 

 

            นอกจากการยิ้มแล้ว ท่าทางเวลาโพสถ่ายรูปก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่บอกอะไรได้หลายอย่างดังนี้

 

กอดอก

          ไม่ว่าคุณจะยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวขนาดไหน แต่ถ้าคุณชอบกอดอกถ่ายรูป นั่นบ่งบอกว่า คุณเป็นคนรักอิสระ ชอบความท้าทาย รักการผจญภัย มักเป็นคนมีงานอดิเรกสไตล์แอดเวนเจอร์ จะเลอะจะลุยแค่ไหนก็ไม่ถอย  แต่บางครั้งคุณก็เป็นคนดื้อเงียบ ไม่เชื่อใครง่าย ๆ และลึก ๆ จะค่อนข้างระมัดระวังตัวกับคนที่ไม่สนิท

 

 

นั่งแบบคูล ๆ

          จะยิ้มแบบไหนไม่สำคัญ แต่ขอให้คุณได้ถ่ายรูปด้วยท่านั่งก็แล้วกัน รับรองจัดให้ได้ทุกท่วงท่า เพราะการนั่งถ่ายรูปเป็นสไตล์ความชอบของคุณ แสดงว่าคุณเป็นคนซื่อตรง  ไม่ชอบพูดเอาใจใคร ไม่ชอบเห็นการเอาเปรียบ  เป็นคนช่างปกป้อง  โดยเฉพาะครอบครัวและเพื่อนฝูงของคุณ ใครอย่าแตะเชียว

 

 

ปิดหน้า

           ถ้าคุณเป็นคนชอบถ่ายรูปโดยการปิดหน้า ไม่ว่าจะปิดบางส่วน หรือปิดทั้งหมด กระทั่งหันหลัง หันข้างถ่ายแบบไม่ให้เห็นใบหน้า ไม่โชว์รอยยิ้ม นั่นอาจบอกได้ว่า คุณเป็นคนขี้เล่น อารมณ์อ่อนไหวสไตล์ศิลปิน  คิดไม่เหมือนคนอื่น รักแรงเกลียดแรง  ถ้ารักใครจะทุ่มเทเต็มร้อย แต่ถ้าเกลียดล่ะก็ ชาตินี้ไม่ต้องหวังจะดีกันเลย

 

 

ทำหน้านิ่ง 

          ถ้าคุณชอบถ่ายรูปด้วยลุคนิ่ง ๆ หน้าเฉย ๆ ไม่ค่อยยิ้ม แสดงว่าคุณเป็นคนมั่นใจในตัวเอง  ค่อนข้างหนักแน่น  เป็นขาลุยที่ไม่ยอมแพ้เวลาเจออุปสรรคใด ๆ ค่อนข้างตรงไปตรงมา  ไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบ  แต่รับรองว่าไม่หาเรื่องใครก่อนแน่นอน

 

 

 

            แต่ถ้าตอนนี้คุณไม่มั่นใจในรอยยิ้มตัวเอง เรามีเทคนิคสร้างรอยยิ้มให้สวยเป็นธรรมชาติมาฝากดังนี้

 

  1. ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ให้ฟันขาวสะอาด ปราศจากฟันเหลือง เพื่อความมั่นใจในการยิ้ม ถ้าอยากฟันขาวมีออร่า ลองเพิ่มการฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้านอีกหนึ่งขั้นตอนก็จะยิ่งเลิศ

 

 

  1. แต่งหน้าให้เหมาะกับตัวเอง และรู้จักเลือกสีลิปสติกที่ช่วยส่งเสริมให้ดูฟันขาว จะยิ่งเป๊ะปังเข้าไปอีก

 

 

  1. ต้องกล้ายิ้มอย่างเต็มที่ เต็มหัวใจ บางคนอยากยิ้มแต่ไม่กล้ายิ้มเต็มที่ ทำให้รอยยิ้มดูแข็งเกร็ง อันเนื่องมาจากกลัวการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ทั้งที่ความจริงแล้วการยิ้มทำให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน หรือสารแห่งความสุขออกมา ทำให้อารมณ์ดี ร่างกายผ่อนคลาย ความเครียดลดลง  กล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ออกกำลัง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้  การยิ้มจึงถือเป็นยารักษาความงามตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง

 

 

  1. ฝึกยิ้มให้ตัวเองหน้ากระจก เพื่อให้รอยยิ้มของคุณดูดี และเป็นธรรมชาติ ตามขั้นตอนดังนี้

 

    • ยืนหน้ากระจกแล้วหลับตา หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมา เพื่อเป็นการผ่อนคลาย เมื่อลืมตาขึ้นคุณจะรู้สึกจิตใจสงบขึ้น ให้ลองยิ้มกับตัวเองในกระจกตามความรู้สึก โดยไม่ต้องฝืน เมื่อฝึกจนคล่องแล้ว ต่อไปเวลาจะถ่ายรูปก็ลองหลับตาสัก 1- 2 วินาทีก่อนจะลืมตามาถ่ายรูป แล้วคุณจะได้รูปที่มีรอยยิ้มที่ออกมาจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

    • ลองนึกถึงเรื่องที่มีความสุข ไมว่าจะเป็นที่เรารัก สัตว์เลี้ยง ของกินที่ได้ลิ้มรสเมื่อไหร่ก็ฟิน หรือแม้แต่สถานที่แสนสุขที่แค่นึกภาพก็ยิ้มออกมา จากนั้นลองดูรอยยิ้มตัวเองในกระจก คุณจะรู้สึกว่ามันดูดีขึ้น จริง ๆ นะ

 

    • ใช้อุปกรณ์ช่วยฝึก เช่น ใช้ตะเกียบหรือปากกาด้ามขนาดมาตรฐานตามวิธีดังนี้

 

      • ยืนหน้ากระจกแล้วคาบตะเกียบค้างไว้ประมาณ 30 วินาที
      • ปรับแนวตะเกียบให้ขนานกันพอดี พร้อมกับดูมุมปากทั้งสองด้านว่า ดูดีเท่ากันหรือไม่
      • ลองยกตะเกียบขึ้นพร้อมกับยกมุมปากยิ้มขึ้นตาม แล้วยิ้มค้างไว้ 5 – 10 วินาที ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง แต่อย่าฝืนจนเมื่อยปาก
      • ฝึกทุกวันแล้วสังเกตความเปลี่ยนแปรง บางครั้งแม้เราไม่ได้ยิ้ม แต่มุมปากของเราจะกระดกขึ้นน้อย ๆ โดยอัตโนมัติ ทำให้ดูเหมือนมีรอยยิ้มน้อยๆ ติดอยู่บนใบหน้าเสมอ

 

  1. เวลาถ่ายรูปเราอาจเคยได้ยินหลายคนพูดคำว่า ชีส (Cheese) เพื่อให้ริมฝีปากฉีกยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ แต่บ่อยครั้งที่มันดูเป็นรอยยิ้มที่แข็ง และไม่เป็นธรรมชาติ ให้ลองเปลี่ยนมาพูดคำว่า มันนี่ (Money) แทน เพราะริมฝีปากของเราจะแย้มออกเป็นรอยยิ้มก็จริง แต่รูปปากจะแย้มออกในระยะพอดีมากกว่าคำว่าชีส ทำให้รอยยิ้มดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

 

 

  1. ถ้าคุณเป็นสายถ่ายรูปที่ชอตเดียวเอาไม่อยู่ แต่ต้องถ่ายเยอะ ๆ เพราะรูปที่ออกมาแม้จะมีทั้งรอยยิ้ม และฟันขาวสุขภาพดี แต่กลับดูไม่ได้ดังใจ ก่อนจะถ่ายครั้งต่อไป คุณผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้าสักครู่ เพื่อให้รอยยิ้มครั้งต่อไปของคุณดูไม่เกร็งค้างแบบไม่เป็นธรรมชาติ

 

 

  1. ลองไม่ต้องห่วงสวยห่วงหล่อ แต่ยิ้มสนุก ทำหน้าตาตลก ๆ หลุดโลกถ่ายรูปดูบ้าง แล้วคุณจะรู้สึกสนุก มีความสุขกับการถ่ายรูปมากกว่าการเก็กสวย เก็กหล่ออย่างเดียว และความสุขที่คุณรู้สึกก็จะสื่ออารมณ์ออกมาในรูปถ่ายจนคุณสัมผัสได้เลยล่ะ

 

 

  1. เปิดเพลงสนุกๆ ระหว่างถ่ายรูปเพื่อบิวต์ตัวเองให้คึกคักระหว่างถ่ายรูป หรือถ้าไปกับเพื่อนก็ลองคุยกันเรื่องตลก ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ รับรองว่ารูปที่ออกมาจะดูดีขึ้นเป็นกองเลยล่ะ

 

 

  1. พยายามยิ้มให้เห็นฟันมากกว่ายิ้มแบบไม่เห็นฟัน เพราะการยิ้มกว้างให้เห็นฟันขาวสะอาด แสดงถึงความมั่นใจ ให้ความรู้สึกมีเสน่ห์ น่าเข้าใกล้ และเป็นมิตร  ใครเห็นก็รู้สึกถึงพลังบวกได้ง่าย  ฉะนั้นไม่ว่าจะยิ้มให้ใคร หรือถ่ายรูปแบบไหน ยิ้มเห็นฟันเข้าไว้ มีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอน

 

 

          อ่านบทความนี้จบแล้วก็รีบไปดูแลสุขภาพช่องปาก และฝึกยิ้มให้เป็นธรรมชาติกันด่วนเลย ... เอ้า ! หนึ่ง สอง สาม แชะ!!

 

 

 

Back to blog