เวิร์คฟอร์มโฮมอย่างไรให้ฟันแข็งแรงสู้โควิด

เวิร์คฟอร์มโฮมอย่างไรให้ฟันแข็งแรงสู้โควิด

 

 

            นับตั้งแต่ โควิด - 19 เข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตของเราจนเกิดการใช้ชีวิตแบบ วิถีใหม่ (New Normal)  และการทำงานแบบ เวิร์คฟอร์มโฮม  (Work from Home) ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันสำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลสุขภาพด้านต่าง ๆ แม้แต่สุขภาพช่องปากที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง

            โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จีเอสเค คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์ ได้ให้บริษัทสำรวจและวิจัยการตลาด อิปซอส ทำการสำรวจความคิดเห็นออนไลน์กับผู้บริโภคที่อายุมากกว่า 18 ปีจำนวน 4,500 คนจาก 5 ประเทศในยุโรป ได้แก่ เยอรมันนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน และรัสเซีย รวมถึง 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย  แล้วพบว่า การระบาดของโรคโควิด -19 ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยผลสำรวจในไทยทำให้ได้ข้อมูลว่า    

            คนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องใช้ชีวิตการทำงานแบบเวิร์คฟอร์มโฮมรู้ดีว่า  การมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับช่องปากจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร่างกายและจิตใจตามมา แต่เพราะข้อจำกัดในการใช้ชีวิตในแบบวิถีใหม่ ที่มีมาตรการล็อคดาวน์มาควบคุม ทำให้คนไทยมีการดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีเหมือนเดิม หรือแย่ลง

 

 

            การเวิร์คฟอร์มโฮมมีส่วนทำให้การดื่มชา – กาแฟเพิ่ม 22 % การดื่มน้ำผลไม้บรรจุกล่องเพิ่ม 21 %  การรับประทานขนมขบเคี้ยวเพิ่ม 20%  การรับประทานขนมที่มีส่วนประกอบจากไอศกรีมเพิ่มขึ้น 19 % และการดื่มน้ำอัดลมเพิ่มขึ้น 12 % ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก ทำให้เกิดการเสียวฟัน 79 % เกิดคราบหินปูน 60 %  และมีปัญหาฟันเหลือง 47 %  

 

            แน่นอนว่าเมื่อเกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก หากเป็นสถานการณ์ปกติคนส่วนใหญ่คงเข้ารับการรักษาจากทันตแพทย์อย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ในสถานการณ์โควิด – 19 ระบาดทำให้ผู้คนมีข้อจำกัดในการเข้ารับการรักษา ในขณะที่ขั้นตอนการดูแลปากและฟัน เช่น การแปรงฟันที่คนส่วนใหญ่ยังแปรงแค่ 2 ครั้งต่อวัน และไม่มีตัวช่วยเช่น น้ำยาบ้วนปาก ไหมขัดฟัน เครื่องฟอกฟันขาว ฯลฯ  เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากเพิ่มเติม

 

            แล้วการดูแลสุขภาพช่องปากช่วงเวิร์คฟอร์มโฮมในตอนนี้เราควรดูแลช่องปากตัวเองอย่างไร เรามีคำตอบที่อาจช่วยคุณได้ ดังนี้

 

  1. แยกอุปกรณ์ดูแลช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไหมขัดฟัน น้ำยาบ้วนปาก ฯลฯ อย่าใช้ปะปนกับคนอื่น และควรเก็บไว้ของใครของมัน

 

 

  1. ล้างแปรงสีฟันให้สะอาดอยู่เสมอ และให้ผึ่งลมให้แห้งดีกว่าเก็บไว้ในที่ครอบหัวแปรง เพื่อลดการสะสมเชื้อโรค

 

 

  1. มีวินัยในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ หรือดูแลให้มากขึ้น เช่น นอกจากแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ควรถือโอกาสเวิร์คฟอร์มโฮมในการแปรงฟัน (หรือบ้วนปาก) ทุกครั้งหลังการรับประทานอาหาร และใช้ตัวช่วยเช่น น้ำยาบ้วนปาก ไหมขัดฟัน หมากฝรั่งแบบปราศจากน้ำตาล น้ำเกลือ ฯลฯ ในการดูแลช่องปากเพิ่มขึ้น

 

 

  1. ดูแลเรื่องอาหารการกินที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก เช่น ลด ชา – กาแฟ ขนม น้ำอัดลม ให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารบำรุงฟัน เช่น แอปเปิ้ล มะละกอ ข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน

 

 

  1. ดื่มน้ำให้พอเพียง เพื่อลดความเป็นกรดในช่องปาก ช่วยป้องกันฟันผุ

 

 

  1. จัดตารางออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากด้วย

 

 

  1. หมั่นตรวจเช็คความเครียดของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าสุขภาพจิตมีปัญหา อาจทำให้เกิดอาการนอนกรน กัดฟันขณะนอนหลับ และเครียดเกินไปจนเผลอกัดฟันไม่รู้ตัว ส่งผลให้ฟันสึกกร่อน หรือเกิดแผลร้อนในที่อาจขยายเป็นการติดเชื้อในช่องปากได้

 

 

  1. ถ้าคุณใส่อุปกรณ์จัดฟัน หรือฟันปลอม ควรหมั่นดูแลทำความสะอาดเป็นพิเศษ ไม่เคี้ยวอาหารที่แข็ง เหนียวเกินไป ไม่แปรงฟันแรงเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้อุปกรณ์จัดฟัน หรือฟันปลอมชำรุดขึ้นมาได้

                    

 

ในขณะที่โควิด – 19 ยังระบาดอยู่ เราควรไปพบทันตแพทย์หรือไม่ ?

         การไปพบทันตแพทย์ควรเป็นกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวคุณเอง และทันตแพทย์แต่กรณีที่คุณมีทันตแพทย์ประจำ คุณสามารถโทรปรึกษาได้ว่าปัญหาในช่องปากของคุณเรียกว่าฉุกเฉินหรือไม่  ซึ่งหากระหว่างเวิร์คฟอร์มโฮมแล้วเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากในกรณีต่าง ๆ อาจแก้ไขเบื้องต้นได้ดังนี้  

 

            ปวดฟัน

            ถ้าจู่ ๆ มีอาการปวดฟันขึ้นมากะทันหัน ให้บรรเทาอาการด้วยการอมน้ำเกลืออุ่น ๆ เพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในช่องปาก ลองแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันเบา ๆ เพื่อเช็คดูว่ามีเศษอาหารติดอยู่บริเวณที่ปวดหรือไม่ แล้วค่อยรับประทานยาแก้ปวดเช่น  พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน  

         

 

          อาการปากแห้ง

          ปากแห้งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเพราะดื่มน้ำน้อยเกินไป  ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ  ขาดสารอาหาร หรือรับประทานยาบางชนิดติ่ดต่อกัน เช่น ยาแก้แพ้ ยาขับปัสสาวะ ฯลฯ ลองแก้เบื้องต้นด้วยการดื่มน้ำให้พอเพียง และเคี้ยวหมากฝรั่งแบบไม่มีน้ำตาล ( Sugar Free ) เพื่อเพิ่มการผลิตน้ำลายในช่องปากโดยไม่ทำลายสุขภาพฟัน

 

 

เหงือกอักเสบ

        เหงือกอักเสบเป็นปัญหาที่บรรเทาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เช่น  แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีที่ถูกต้อง ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากเป็นตัวช่วยดูแลช่องปากเป็นประจำ จะช่วยลดการอักเสบได้ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรทำการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อพบทันตแพทย์

 

 

 ระคายเคืองในปาก

            จากการสำรวจที่เห็นว่ามีการบริโภคชา กาแฟ และน้ำอัดลมมากเกินไป อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องปากเนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีเป็นกรดมากเกินไป โดยไม่ดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเกิดจากการดูแลช่องปากเกินความจำเป็น เช่น ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอลล์บ่อยเกินไป หรือแปรงฟัน – ลิ้น บ่อยเกินไป ทางแก้เบื้องต้นคือสังเกตว่าอะไรคือสาเหตุของการระคายเคือง ถ้าเพราะดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรดให้ลดปริมาณลง  ถ้าเพราะแปรงฟัน – ลิ้น และใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยเกินไปให้ลดความถี่ลง

 

 

          มีเลือดออกตามไรฟันและเหงือก

          การมีเลือกออกตามไรฟันและเหงือกขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันแสดงให้เห็นว่าคุณอาจกำลังเป็นเหงือกอักเสบหรือโรคปริทันต์  ให้ดูแลเบื้องต้นด้วยการน้ำน้ำเกลืออุ่น ๆ มาอมเพื่อบรรเทาอาการ  ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอลล์เพื่อช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก จะช่วยบรรเทาอาการได้  

 

 

            ฟันแตก

          ฟันแตกในที่นี้คือ ฟันแท้แตกเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เคี้ยวของที่แข็งเกินไป หรือวัสดุที่อุดฟันไว้เสียหายหรือหลุดออกมา ถ้ามีอาการเจ็บให้บ้วนปากด้วยน้ำอุ่น  ถ้าปวดและบวมให้ใช้เจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบที่แก้มหรือบริเวณปากที่เจ็บ ถ้าเป็นมาก เสี่ยงทะลุลงไปถึงประสาทฟัน ควรรีบติดต่อพบทันตแพทย์

 

 

เหล็กดัดฟันมีปัญหา

          ถ้าคุณจัดฟันอยู่แล้วเกิดปัญหา เช่น ลวดจัดฟันหลุดหรือหัก คุณควรโทรปรึกษาคลีนิคที่ทำการจัดฟันเพื่อขอคำแนะนำในการดูแลและแก้ไขปัญหา อย่าปล่อยผ่านไปเพราะถึงแม้จะไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วนแต่ก็สร้างความรำคาญ และทำให้เกิดแผลในช่องปากได้

 

 

            ฟันปลอมชำรุด

          ในผู้สูงอายุหรือคนที่ใช้ฟันเทียม หรือฟันปลอม แล้วเกิดชำรุดเสียหายในเวลานี้ หากชำรุดเล็กน้อย ไม่กระทบกับการเคี้ยวอาหารเกินไปให้เก็บไว้ก่อน รอสถานการณ์ดีขึ้นค่อยนำไปให้ทันตแพทย์ซ่อม แต่ถ้าเป็นปัญหาต่อการเคี้ยวจริง ๆ ให้นำฟันปลอมไปหาทันตแพทย์ใกล้บ้านเพื่อซ่อมแซม อย่าพยายามซ่อมเองโดยกาวทั่วไป เช่น กาวตาช้าง เพราะนอกจากจะเป็นอันตรายจากสารเคมีในกาวแล้ว  อาจติดผิดตำแหน่งทำให้ฟันปลอมชำรุดจนซ่อมแซมให้เหมือนเดิมไม่ได้อีกด้วย

 

 

            ส่วนปัญหาในช่องปากที่เรียกว่าฉุกเฉินจนต้องรีบเข้ารับการรักษาจากทันตแพทย์ คือ

 

            1.เลือดออกตามไรฟันและเหงือกโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

            2.เกิดเหตุที่ทำให้ฟันเสียหายขนาดหนักจนเกิดปัญหาถึงเส้นประสาท ทำให้รู้สึกชา

            3.เกิดการติดเชื้อในช่องปาก เช่น ฟันผุจนเป็นโพรงและมีหนอง หรือมีการปวดบวมอย่างรุนแรง

            4.เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ขากรรไกรกระทบกระเทือน อักเสบ ผิดรูป หรือถึงขั้นหัก หลังปฐมพยาบาลหรือบรรเทาอาการเบื้องต้นแล้วควรไปพบทันตแพทย์ด่วน

            5.กรณีเตรียมความพร้อมช่องปากเพื่อการรักษาโรคอย่างอื่น เช่น ฉายรังสี ผ่าตัดหัวใจ เคมีบำบัด

           

            เพราะในเวลานี้สุขภาพที่ดีคือสิ่งสำคัญที่สุด ฉะนั้นเรามาเวิร์คฟอร์มโฮมอย่างมีคุณภาพ ด้วยการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมถึงสุขภาพช่องปากกันเถอะ เพื่อถึงวันข้างหน้าที่เราสามารถออกจากบ้านโดยไม่ต้องใส่แมสเมื่อไหร่ เราจะได้ฉีกยิ้มพร้อมฟันขาวสุขภาพดีได้เต็มร้อยอย่างไรล่ะคะ

 

กลับไปยังบล็อก