หลายคนอาจสงสัยว่า ตัวเองดูแลสุขภาพฟันอย่างดี แต่ทำไมยังมีปัญหาฟันเหลืองและเรื่องน่าปวดหัวเกี่ยวกับช่องปากเกิดขึ้นไม่รู้จบ บางครั้งปัญหาเหล่านี้ก็เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมทำร้ายฟันของตัวคุณเองก็ได้ อยากรู้ว่าคุณคือหนึ่งในคนที่เผลอทำร้ายฟันขาวของตัวเองไปบ้างหรือเปล่า ลองมาเช็คกันดูเลยว่าคุณกำลังมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้หรือไม่
ชอบแปรงฟันแรง ๆ
การแปรงฟันแรงเพราะเชื่อว่าจะยิ่งทำให้ฟันสะอาดเป็นเรื่องไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะแปรงฟันแรงเกินไปมีแต่ผลเสีย ทำให้ผิวฟันถูกทำลาย เนื้อฟันถูกเปิดจนสีฟันนั้นเหลือง เสียวฟัน เหงือกเจ็บจนอักเสบ และเลือดออกตามไรฟันได้
ดื่มน้ำน้อย
การดื่มน้ำให้พอเพียง อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่รู้กันดี แต่บ่อยครั้งเรามักดื่มน้ำน้อยกว่าที่ควร บางคนดื่มน้อยจนเกิดความเคยชิน ส่งผลเสียงต่อระบบร่างกาย ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ในช่องปากเองก็ส่งผลทำเกิดภาวะปากแห้ง น้ำลายถูกผลิตน้อย เพิ่มโอกาสทำให้ฟันผุ และเกิดกลิ่นปากมากยิ่งขึ้น
มีนิสัยกัดเล็บ
การกัดเล็บเป็นพฤติกรรมที่หลายคนเป็นโดยไม่รู้ตัวที่อาจมาจากสภาพจิตใจ หรือรู้ตัวแต่ก็อดไม่ได้แม้จะรู้ว่าการกัดเล็บทำให้สภาพเล็บไม่ดี เสียบุคลิก แล้วร่ายกายอาจได้รับเชื้อโรคจากเล็บที่กัดไปเพราะตามซอกเล็บมักมีเชื้อโรคปะปนอยู่ก็เป็นได้ ฉะนั้นควรลด ละ เลิกพฤติกรรมนี้เสีย
ติดสูบบุหรี่
สารนิโคตินในบุหรี่จะเป็นคราบเหนียวติดฟัน ทำให้ฟันเหลืองและกลายเป็นดำ เป็นบ่อเกิดของหินปูนที่ทำให้เกิดโรคเหงือกได้ง่าย และความร้อนจากการสูบบุหรี่ยังทำร้ายคอลลาเจนในเหงือก ทำให้เหงือกถูกทำลาย เกิดปัญหาเหงือกร่นได้ ซึ่งถ้าเป็นระดับรุนแรงอาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งช่องปากอีกด้วย
เคี้ยวน้ำแข็ง
การเคี้ยวน้ำแข็งเป็นพฤติกรรมปกติของใครหลายคน ยิ่งเคี้ยวกรุบกรอบยิ่งสนุก และคิดว่าแค่เคี้ยวน้ำแข็งไม่ได้ทำให้ฟันเสียหาย แต่ความจริงคือการเคี้ยวน้ำแข็งอาจทำให้เกิดการเสียวฟัน ปวดฟัน เคลือบฟันสึกกร่อนมากกว่าปกติ และอาจร้ายแรงถึงขั้นฟันร้าวหรือแตกหักก็เป็นได้
ติดใช้ไม้จิ้มฟัน (ผิดวิธี)
การใช้ไม้จิ้มฟันช่วยขจัดเศษอาหารตามซอกฟันได้ก็จริง แต่การใช้ไม้จิ้มฟันบ่อยเกินไป หรือใช้ผิดวิธี เช่น จิ้มที่ซอกฟันแรงเกินไป หรือชอบคาไม้จิ้มไว้บริเวณซอกฟัน อาจทำให้ซอกฟันห่างขึ้น อาจเกิดอุบัติเหตุไม้จิ้มฟันทิ่มเหงือกจนเป็นแผลได้
ติดน้ำอัดลม
น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มให้ความหวานที่หลายคนขาดไม่ได้ และลืมไปว่าน้ำอัดลมก็มีความเป็นกรดไม่ต่างจากมะนาวและของรสเปรี้ยวอย่างอื่น ฉะนั้นการดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ จนเรียกว่าติดน้ำอัดลมแบบขาดไม่ได้ย่อมส่งผลต่อฟัน ทำให้เกิดคราบ เนื้อฟันสึกกร่อน แถมน้ำตาลในน้ำอัดลมยังทำให้เสี่ยงต่ออาการฟันผุอีกด้วย
ติดชา กาแฟ
ชา กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้สำหรับคนยุคนี้ อาการติดชา – กาแฟจึงเป็นเรื่องห้ามยาก แม้จะรู้ว่าอาจทำให้เกิดฟันเหลือง ทำให้น้ำลายในปากน้อยลง และอีกหลายปัญหา แต่ถ้าให้เลิกดื่มไปเลยคงทำใจกันได้ยาก ฉะนั้นเราควรดูแลตัวเองแทนด้วยการดื่มน้ำเปล่าตามหลังดื่มชา – กาแฟ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำลายและชะล้างกรดในช่องปาก
ติดหวาน
การติดหวานในคนที่ชอบรับประทานของหวานและคนชอบทานอาหารรสหวานมักมีปัญหาตามมาในเรื่องสุขภาพ โดยรวมสุขภาพช่องปาก เช่น ทำให้เคลือบฟันถูกทำลาย ฟันผุง่าย ฉะนั้นควรรับประทานหวานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่กินจุบกินจิบ และถ้าต้องรับประทานของรสหวานควรบ้วนปากหรือแปรงฟันตามทุกครั้ง
ใช้ฟันผิดหน้าที่
แม้ฟันจะเป็นอวัยวะที่มีความแข็งแรง แต่การใช้ฟันผิดหน้าที่ด้วยการใช้เปิดฝาขวด ฉีกถุง กัดดึงสก๊อตเทป งัดของแข็ง แกะก้ามปู ฯลฯ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะมันอาจทำให้ฟันหน้าแตกหักหรือบิ่นได้อย่างคาดไม่ถึง แล้วยังอาจทำให้ช่องปากเกิดแผลได้อีกด้วย จึงควรหลีกเลี่ยง
การกัดฟัน
การกัดฟันในที่นี้มี 2 อย่างคือ
- การนอนกัดฟันเกิดขณะหลับสาเหตุใหญ่มักมาจากมีความเครียดสะสมหรือร่างกายฟ้องถึงอาการเจ็บป่วยบางอย่าง ซึ่งส่งผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพช่องปาก ทำให้ฟันสึก ร้าว แตกหัก ขากรรไกรอักเสบ ปวดศีรษะ ฯลฯ ฉะนั้นควรป้องกันการนอนกัดฟันด้วยการใส่เฝือกสบฟันขณะนอน แล้วไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
- การกัดฟันโดยไม่รู้ตัวเมื่อเครียดหรือโมโห เป็นพฤติกรรมจากจิตใต้สำนึกที่บางคนจะแสดงออกถึงอารมณ์ผ่านการกัดฟัน ซึ่งส่งผลเสียต่อฟันได้ ถ้ารู้ตัวว่ามีพฤติกรรมนี้ควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข
ลองสำรวจตัวเองวามีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่แล้วทำการแก้ไขเสีย รับรองว่าฟันขาว และสุขภาพช่องปากที่ดีจะอยู่กับคุณไปอีกนานแสนนาน