ดูแลริมฝีปากอย่างไร ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ฟันขาว

ดูแลริมฝีปากอย่างไร ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ฟันขาว

 

 

          ริมฝีปาก เป็นอวัยวะที่อ่อนไหวง่าย และบอกบาง ต้องการการบำรุงไม่ผิวพรรณส่วนอื่น ๆ เมื่อเราต้องการจะยิ้มสดใสอย่างมั่นใจ  จึงต้องมีริมฝีปากชุ่มชื้นสุขภาพดีเป็นองค์ประกอบสำคัญ  แต่บ่อยครั้งที่ริมฝีปากเกิดปัญหา แห้ง แตก หลุดหลอกเป็นขุย และริมฝีปากหมองคล้ำ ทำให้ไม่กล้ายิ้มโชว์ฟันขาวแข็งแรง ปราศจากฟันเหลือง กลายเป็นเรื่องชวนให้หม่นหมองรู้สึกไม่มั่นใจ  วันนี้เราเลยจะมาชี้สาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากเกิดปัญหา และชวนบำรุงริมฝีปากให้กลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดี  เพื่อทวงรอยยิ้มที่มั่นใจให้ทุกคนกันค่ะ

 

 

สาเหตุของปัญหาเกี่ยวกับริมฝีปาก

  1. กรรมพันธุ์ ถ้าคนมีสีปากออกชมพู หรือน้ำตาลอาจดูปกติ แต่ใครที่มีปากดำคล้ำอาจรู้สึกไม่มั่นใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ เช่นเดียวกับสีผิว สีเหงือก ถ้าคนที่มีเม็ดสีเมลานินในผิวหนังมากแต่เกิด ทำให้เป็นคนผิวคล้ำ ก็จะทำให้ริมฝีปากมีสีเข้มคล้ำตามไปด้วย

 

 

  1. อายุ การที่ริมฝีปากสีคล้ำขึ้น แห้งง่ายขึ้น มาจากอายุที่มากขึ้นด้วย เพราะเมื่อสูงวัยขึ้น ผิวพรรณย่อมเสียสมดุล ริมฝีปากที่เป็นผิวหนังส่วนหนึ่งก็เช่นกันที่มีความชุ่มชื้นและเต่งตึงน้อยลงตามวันเวลา และมีสีสันไม่สดใสเหมือนตอนวัยรุ่น

 

 

  1. การเลียริมฝีปาก เมื่อปากแห้งคนเรามักเคยชินกับการเลียริมฝีปากเพื่อหวังให้น้ำลายเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก แต่ความจริงการเลียริมฝีปากบ่อย ๆ กลับเป็นสาเหตุให้ปากแห้งและคล้ำได้ง่าย เพราะเอมไซม์ในน้ำลายจะทำลายความชุ่มชื้นบนริมฝีปาก 

 

 

  1. สภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอากาศเย็นและแห้ง ลมแรง หรืออากาศร้อนจัด แห้งแล้ง ล้วนแต่ทำให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้น และเป็นขุยได้ง่าย  แม้จะเป็นอากาศเย็นและแห้งจากการอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ ก็ส่งผลเสียต่อริมฝีปากไม่ต่างกัน                                                                                                                                                                                                                                                        
  1. แสงแดด & รังสียูวี การที่ริมฝีปากโดนแสงแดดแรง ทำให้ได้รับรังสี อัลตร้าไวโอเล็ต (Ultraviolet : UV) ปริมาณสูง ส่งผลให้ความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นของเซลล์ผิวหนังบนริมฝีปากถูกทำลายไป จนเกิดปากแห้ง  แตก และดำคล้ำ  

 

 

  1. ร่างกายขาดน้ำ ร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำ 60 - 70 % โดยระหว่างวันการมีเหงื่อ และขับถ่ายทำให้เราสูญเสียน้ำในร่างกายไปเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับน้ำอย่างพอเพียงเพื่อทดแทนส่วนน้ำที่สูญเสียไปก็จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ มีอาการริมฝีปากแห้ง และแตก รวมทั้งส่งผลต่อระบบร่างกายอื่น ๆ ตามมา  

 

 

  1. ลิปสติก ถ้าคุณใช้ลิปสติกแท่งไหนแล้วรู้สึกว่าปากแห้งตึงผิดปกติ เมื่อใช้บ่อย ๆ แล้วเกิดอาการปากแห้ง แตก ริมฝีปากลอกเป็นขุย แสดงว่าส่วนผสมในลิปสติกส่งผลเสียต่อริมฝีปากคุณแล้ว ถ้ายังฝืนใช้จะกลายเป็นอาการแพ้ที่รุนแรงขึ้น เพราะในลิปสติกมีส่วนประกอบที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองหลายอย่าง เช่น สารกันบูด เมนทอล สี น้ำหอม ฯลฯ โดยเฉพาะถ้าเป็นลิปสติกไม่ได้คุณภาพ ไม่มีมาตรฐาน

 

 

  1. ปัญหาสุขภาพ อาการเจ็บป่วยทางร่างกายอาจแสดงผลออกมาให้เห็นทางริมฝีปาก เช่น

โลหิตจาง  - ทำให้ปริมาณเลือดที่มาหล่อเลี้ยงริมฝีปากมีน้อยจนสีซีด ปากแห้งไม่ชุ่มชื้น

โรคหัวใจ – บางกรณีจะส่งผลทำให้เลือดเข้ม จะทำให้ริมฝีปากดำคล้ำผิดปกติ

ภูมิแพ้ผิวหนัง – ทำให้ผิวหนังบริเวณต่าง ๆ มีอาการแห้ง คัน ริมฝีปากแห้ง ลอก และเป็นขุย

การขาดสารอาหาร –  การขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น ขาดวิตามินบี และซี ทำให้เกิดโรคปากนกกระจอก ผิวหนังและริมฝีปากแห้ง หยาบกร้าน ควรต้องบำรุงด้วยอาหารเสริม

แผลร้อนใน  – อาการนี้เป็นผลจากร่างกายขาดน้ำ ทำให้มีแผลในช่องปาก และริมฝีปากแห้งแตก

 

 

 

  1. ยาบางชนิด ในคนป่วยที่ต้องรับประทานยา เช่น ยาแก้หวัด ยาภูมิแพ้ ยารักษาเบาหวาน ความดัน  ยาขับปัสสาวะ ฯลฯ  อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการปากแห้ง ริมฝีปากลอก และสีคล้ำลงได้ ถ้าอาการเป็นต่อเนื่อง และมากขึ้น อย่าหยุดยาเอง แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนตัวยา  

 

 

  1. อาการแพ้ ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปาก เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ทำให้ปากแห้ง ริมฝีปากแตก ลอก และเป็นขุยได้ เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สารทำให้เกิดฟอง  สารแต่งกลิ่นและรส  ฯลฯ ซึ่งถ้ายังฝืนใช้ต่อ อาจทำให้ริมฝีปาก และผิวหนังรอบริมฝีปากอักเสบได้                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                              
  2. ผัก ผลไม้ บางประเภท –ผักผลไม้บางอย่างทำให้เกิดผลข้างเคียงกับริมฝีปากได้ เช่น ผลไม้รสเปรี้ยวอย่าง ส้ม มะนาว สัปปะรด มีกรดที่หากสัมผัสริมฝีปากมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะปากแห้ง  ส่วน กระเทียม ขิง ผักชี ข่า  ฯลฯ จะมีสาร โซราเลน (Soralen) ที่หากตกค้างบนริมฝีปาก เมื่อได้รับรังสียูวีในแสงแดดเป็นตัวกระตุ้น จะทำให้ริมฝีปากอักเสบ  เกิดการสร้างเม็ดสีที่ริมฝีปากมากขึ้นจนดำคล้ำได้

  

 

  1. บุหรี่ – ในบุหรี่มีสารพิษหลายชนิด เช่น นิโคติน ทาร์ และ คาร์บอนมอนอกไซด์  ทำให้คนที่ติดบุหรี่จะได้รับผลกระทบจากสารพิษต่าง ๆ อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ต่อมน้ำลายผิดปกติ เกิดภาวะปากแห้ง และ ริมฝีปากดำคล้ำ

 

 

  1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ - เมื่อร่างกายรับแอลกอฮอลล์เข้าไป ร่างกายจะปรับสมดุลด้วยการขับแอลกอฮอลล์ส่วนเกินออกไปโดยมีน้ำเป็นตัวทำหน้าที่ขับถ่ายผ่านทางรูขุมขน และการขับถ่าย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปมากจนทำให้ริมฝีปากแห้ง 

 

 

  1. เครื่องดื่มคาเฟอีน – ชา กาแฟ น้ำอัดลม ที่มีคาเฟอีน ส่งผลทำให้สมองและร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้มีการขับน้ำออกจากร่างกายมากกว่าปกติ  สังเกตได้ว่าเราจะรู้สึกหิวน้ำ เข้าห้องน้ำบ่อย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ริมฝีปากแห้งได้ง่าย

     

     

    วิธีบำรุงริมฝีปากให้สุขภาพดี

    1. บำรุงจากภายในด้วยการดื่มน้ำ

              การดูแลริมฝีปากนอกจากดูแลจากภายนอกแล้ว  ควรบำรุงจากภายในด้วยการดื่มน้ำเปล่าให้พอเพียง  การได้รับน้ำอย่างเหมาะสม ไม่ใช่แค่ริมฝีปากจะชุ่มชื้นสุขภาพดี  แต่ผิวพรรณจะสดใสเปล่งปลั่ง  ร่างกายสมดุล ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดี  สดชื่นอยู่เสมอ

     

     

    1. ลดริมฝีปากลอกเป็นขุยด้วยสครับ (Scrub)

              ริมฝีปากก็เหมือนผิวหนังส่วนอื่นของร่างกายที่มีเซลล์ผิวที่หลุดลอกได้  การสครับริมฝีปากจึงจำเป็นไม่ต่างจากการสครับผิว  ช่วยให้ริมฝีปากผัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป  ปัจจุบันนอกจากผลิตภัณฑ์สครับริมฝีปากที่มีให้เลือกมากมายแล้ว  ยังมีสูตรธรรมชาติที่เราสามารถใช้ของใกล้ตัวมาช่วยสครับริมฝีปากได้อีกด้วย

             

     

    1. ลิปบาล์มอาวุธประจำริมฝีปาก

              ลิปบาล์มถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้  เพราะเป็นตัวช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นนุ่มนวล  ลิปบาล์มมีส่วนผสมจากกลีเซอรีน มอยเจอร์ไรเซอร์ วิตามินซี วิตามินอี ฯลฯ และสารป้องกันแสงแดด รวมถึงสารพัดสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย ถ้าเป็นแบบออร์แกนิคได้ยิ่งดี ขอแค่เลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน ก็สามารถเลือกสูตรที่โดนใจ เหมาะกับริมฝีปากมาใช้ได้เลย

     

     

    1. เลือกลิปสติกเป็นมิตรกับริมฝีปาก

              ปัจจุบันลิปสติกมีให้เลือกหลายประเภท  หลากสีสัน ที่ช่วยส่งเสริมให้ดูฟันขาว ยิ้มแล้วสวยสดใส แต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมที่ดีต่อริมฝีปาก เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์  เซราไมด์ ที่ช่วยคงความชุ่มชื้น  มีสารป้องกันแสงแดดเพื่อปกป้องจากรังสียูวี  แต่ถ้าอยากเลือกลิปสติกที่เป็นมิตรกับริมฝีปากให้มากขึ้น  เรามีข้อแนะนำดังนี้

     

     

    • เลือกลิปสติกที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อเลี่ยงของที่ก่อความระคายเคืองได้ง่าย
    • ถ้าเป็นคนผิวแห้งง่ายควรเลี่ยงลิปสติกสีแมท เพราะจะทำให้ดูปากแห้งเกินไป
    • ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำผึ้ง ว่านหางจระเข้ เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) ฯลฯ ดีต่อริมฝีปาก ช่วยลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองด้วย
    • ถ้าขอบปาก หรือทั้งริมฝีปากมีความหมองคล้ำควรเลี่ยงลิปสติกที่มันวาว เพราะจะทำให้ริมฝีปากดูคล้ำกว่าเดิม และควรเลือกลิปสติกที่มี เอเอชเอ (AHA) จะช่วยลดความหมองคล้ำได้

     

    สูตรดูแลริมฝีปากแบบธรรมชาติ

    ใช้ปิโตรเลียมเจลทาริมฝีปากก่อนนอน เมื่อตื่นขึ้นมาจะได้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้น

       

       

      แตงกวาสดฝานเป็นแว่นแปะริมฝีปากทิ้งไว้ 5 นาที จะช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้น
      สำลีชุบน้ำอุ่นที่ผสมเกลือป่นเล็กน้อยนำมาแปะไว้ที่ริมฝีปาก ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วเช็ดออกเบา ๆ จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่หลุดลอกเป็นขุยได้

         

         

        น้ำผึ้ง + น้ำมันมะพร้าว อย่างละ 1 ส่วน ผสมแล้วทาริมฝีปากทิ้งไว้ 5 นาที แล้วใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดออก

           

           

          น้ำผึ้ง + น้ำตาล + ปิโตรเลียมเจล อย่างละ 1 ส่วน ผสมให้เข้ากันแล้วกึ่งทากึ่งนวดที่ริมฝีปาก ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดออก จะช่วยสครับผิวริมฝีปากได้ดี
                                 

                      นอกจากดูแลสุขภาพเหงือกให้ชมพู ฟันขาวแข็งแรงแล้ว การดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื้นสดใส ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้รอยยิ้ม และยังเป็นการดูแลสุขภาพร่างกายทางอ้อมอีกด้วย ฉะนั้นมาดูแลริมฝีปากกันทุกวันเถอะค่ะ

             

             

            กลับไปยังบล็อก