“ชาโคล ผงถ่าน” แก้ปัญหาฟันเหลือง ทำให้ฟันขาว ได้จริงหรือ?

“ชาโคล ผงถ่าน” แก้ปัญหาฟันเหลือง ทำให้ฟันขาว ได้จริงหรือ?

 

 

            เมื่อพูดถึง “ชาร์โคล”  หลายคนก็คิดถึงเทรนด์ฮิตช่วงก่อนที่บรรดาเมนูอาหารคาวหวานต่าง ๆ พากันผสมผงถ่านชาร์โคลจนกลายเป็นเมนูของดำกันในวงกว้าง จนกระทั่งมีคำเตือนทางการแพทย์ออกมาว่า  ความจริงแล้วชาร์โคลไม่มีคุณค่าด้านโภชนาการ  และหากรับประทานในปริมาณที่มากไปจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน มีผลข้างเคียงได้ ทำให้เทรนด์ฮิตนี้ลดน้อยลง แต่ขณะเดียวกันชาร์โคลกลับยังมีประโยชน์ และบทบาทในผลิตภัณฑ์หลายชนิด แม้แต่การแก้ปัญหาฟันเหลือง ให้กลับมาเป็นฟันขาวอีกครั้งด้วยชาร์โคล  ว่าแต่มันมีผลดีขนาดนั้นจริงหรือไม่   Linee  เลยอยากชวนทุกคนไปหาคำตอบด้วยกันค่ะ

 

 

“ชาร์โคล” คืออะไร

 

          ชาร์โคล ย่อมาจาก แอคทิเวท ชาร์โคล (Activated Charcoal) หรือที่หลานคนเรียกว่า  ผงถ่านกัมมันต์  หรือ คาร์บอนกัมมันต์  มีที่มาจากภูมิปัญญาที่คนเราเมื่อกว่าพันปีที่แล้วมีการนำผงถ่านมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เช่น ใช้ในการทำความสะอาด ใช้เพื่อกรองน้ำให้สะอาดสำหรับอุปโภค บริโภค โดยชาร์โคล คือผงถ่าน หรือคาร์บอนชนิดหนึ่งที่ผ่านการเผาไหม้ด้วยความร้อนสูงกว่าถ่านที่ใช้ในครัวเรือน 2 – 3 เท่า อาจถึง 1,000 องศาเซลเซียส  ทำให้ชาร์โคลเป็นผงถ่านที่มีมีคุณสมบัติที่สะอาด ปลอดจากเชื้อ  และมีลักษณะเป็นผงเม็ดเล็ก (Granule) .แต่โครงสร้างภายในที่มีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก  จึงดูดซับกลิ่น  และสารต่าง ๆ ไว้ในตัวเองได้ โดยเฉพาะสารพิษ

 

 

ประโยชน์ของ “ชาร์โคล” ที่ใช้กันในปัจจุบัน คือ

 

 

  • เป็นองค์ประกอบของหน้ากากอนามัย หน้ากากนิรภัย  ป้องกันแก๊ซพิษ
  • ใช้ทำไส้กรองเครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองอากาศ 
  • เป็นองค์ประกอบในการสกัดแร่ทองคำ
  • ผลิต กาแฟดีแคฟ (Decaffeinated Coffee) หรือกาแฟไรค้าเฟอีน เป็นต้น
  • ทางการแพทย์ ใช้ผสมยาช่วยย่อย ยาลดกรด  และดูดซับสารพิษที่เราเผลอรับประทานเข้าไปในรูปแบบแคปซูลคาร์บอน ที่สามารถดูดซึมสารพิษได้ประมาณ 60 % ยกเว้นพิษจากแอลกอฮอลล์ สารหนู  พิษประเภทที่มีฤทธิ์เป็นกรด และด่างสูง  เป็นต้น  
  • ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ เช่น มาสก์หน้า สบู่  สครับผิว  ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น  ยาสีฟัน  แชมพู ครีมนวดผม เป็นต้น

 

 

 

 

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ “ชาร์โคล”

 ชาร์โคลช่วยดีทอกซ์ได้

          ชาร์โคลไม่ได้ช่วยเรื่องดีทอกซ์ เพราะว่าความจริงแล้วลำไส้คนเราไม่สามารถดูดซึมชาร์โคลได้  เมื่อรับประทานเข้าไป ชาร์โคลจึงคงตัวอยู่ในลำไส้ก่อนจะถูกขับออกมาจากร่างกาย  ซึ่งประสิทธิภาพที่ชาร์โคลพอจะทำได้คือ ช่วยดูดซับสารพิษที่ยังไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด  แต่ในขณะเดียวกัน  ชาร์โคลก็อาจดูดซึมวิตามิน และแร่ธาตุในร่างกายของเราไปด้วย  ทำให้ร่างกายเราได้รับวิตามิน และแร่ธาตุที่ควรจะได้น้อยลง   หรือแม้แต่ในคนที่มีโรคประจำตัว ต้องรับประทานยาเป็นประจำ  ชาร์โคลก็จะดูดซับฤทธิ์ของยาที่รับประทานเข้าไป ทำให้ประสิทธิผลของยาลดลงได้

 

 

อเมริกาถอด “ชาร์โคล” จากการเป็นสีผสมอาหาร

          เมื่อปี 2016 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้ถอด  แอคทิเวท ชาร์โคล ออกจากการเป็นสีผสมอาหารที่อนุญาติให้ใช้ได้ ในอาหารบางประเภทที่จำเป็นต้องใส่ชาร์โคลในปริมาณมากเพื่อเกิดสี เช่น ขนมปังประเภทต่าง ๆ  ในประเทศไทยเอง ชาร์โคลก็ไม่ได้อยู่ในบัญชีวัตถุเจือปนในอาหารของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  (FDA)  หรือ อย. แต่ก็ไม่ได้มีการห้ามใช้ในอาหาร เพียงแต่ก่อนใช้ต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน

 

 

 

“ชาร์โคล” ในยาสีฟัน ช่วยทำให้ฟันขาวขึ้นจริงหรือไม่ ?

 

          ว่ากันว่าความจริงแล้ว การใช้ชาร์โคล หรือผงถ่านเพื่อทำความสะอาดช่องปากไม่ได้เพิ่งมานิยมเมื่อไม่นานมานี้ แต่มนุษย์เริ่มมีการใช้ผงถ่านเพื่อทำความสะอาดช่องปากตั้งแต่สมัยกรีก – โรมัน ด้วยความเชื่อที่ว่า ผงถ่านจะช่วยขัดฟันให้สะอาด  ทำให้หมดปัญหากลิ่นปาก  รวมทั้งดูแลเหงือกไม่ให้เกิดการอักเสบได้  และเมื่อศตวรรษที่ 19 ก็มีการค้นพบหลักฐานว่า  ที่อังกฤษมีการผสมผงสีดำที่สันนิษฐานว่าคือ ผงถ่าน  ลงในยาสีฟันอีกด้วย  ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับช่องปาก เช่น ยาสีฟัน ผงขัดฟัน ที่บอกว่าช่วยฟอกฟันขาว  แก้ปัญหาฟันเหลืองได้อยู่เรื่อย ๆ

 

          จนกระทั่งเมื่อปี 2017  วารสาร British Dental Journal ได้ตีพิมพ์ผลศึกษาจากทีมวิจัยของ  ดร.โจเซฟ กรีนเวล-โคเอน  (Dr. Joseph Greenwall Cohen)  คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในอังกฤษ  ที่มีการนำาสีฟันชาร์โคลร่วม 50 ชนิดในท้องตลาดของสหรัฐฯ ที่บอกสรรพคุณว่า ช่วยฟอกฟันขาว  ป้องกันฟันผุ และต้านเชื้อแบคทีเรียได้ แต่ผลวิจัยออกมาว่า  ยาสีฟันชาร์โคลที่อยู่ในท้องตลาดนั้น ไม่มีสรรพคุณช่วยฟอกฟันขาวได้มากเท่าที่คิด และ ส่วนใหญ่ช่วยป้องกันฟันผุได้น้อย  เพราะยาสีฟันที่ผสมชาร์โคลส่วนใหญ่มักมีฟลูออไรด์  

 

 

          นอกจากนี้ยังพบผลเสียที่เกิดจากการใช้ยาสีฟันผสมชาร์โคล หรือใช้ผงขัดฟันชาร์โคลด้วยว่า  ยาสีฟันชาร์โคลมักเนื้อสัมผัสหยาบกว่ายาสีฟันสูตรอื่น  หรือถ้าเป็นผงขัดฟันก็จัดเป็นผงขัดฟันเนื้อหยาบ จึงส่งผลทำให้ผิวฟันสึกถ้าใช้ในปริมาณที่มากเกินไป และบ่อยเกินไป จะส่งผลเสียทำให้เหงือก และเคลือบฟัน  (enamel) มีปัญหา  เพราะผงชาร์โคลจะเข้าไปอุดอยู่บริเวณซอกเหงือก และซอกฟัน  ทำความสะอาดออกได้ยาก  อาจทำให้ระคายเคือง  เกิดอาการเสียวฟัน และเสี่ยงต่อการ มีปัญหาฟันสึกกร่อนได้ง่ายขึ้น  ฉะนั้นควรใช้อย่างระมัดระวัง

 

 

ถ้าอยากใช้ “ชาร์โคล” เพื่อดูแลฟันควรทำอย่างไร ?

 

          สำหรับสาวกชาร์โคลที่ยังรู้สึกว่า ชาร์โคลยังมีประโยชน์อยู่  ทาง Linee ก็มียาสีฟันสูตรใหม่  Linee Day & Night Teeth Whitening Toothpaste ที่เป็นยาสีฟันสูตรพิเศษเดย์แอนด์ไนท์  หรือจะเรียกว่ายาสีฟันเฉพาะที่คิดค้นขึ้นสำหรับกลางวัน และสำหรับกลางคืน  ก็ได้  โดยยาสีฟันเดย์แอนด์ไนท์นี้เป็นสูตรเพื่อฟันขาวโดยเฉพาะ รวมทั้งมีประสิทธิภาพช่วยยับยั้งแบคทีเรีย  ลดปัญหากลิ่นปาก ได้อีกด้วย  

 

 

            โดย เดย์ [Day] White Tea Toothpaste - Whiten & Clean คือยาสีฟันสูตรไวท์ที หรือชาขาว ที่คิดค้นขึ้นเพื่อฟันขาวแข็งแรง  ช่วยขจัดคราบพลัคบนผิวฟันอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำลายเคลือบฟัน  แต่ทำความสะอาดได้ล้ำลึก และสร้างลมหายใจหอมสะอาด เพื่อให้ทุกคนเริ่มวันใหม่ยามเช้าอย่างสดชื่น 

 

 

            ส่วน ไนท์ [Night] Peppermint Charcoal Toothpaste - Polish & Repair คือยาสีฟันสูตรเปปเปอร์มิ้นท์ชาร์โคล ที่แม้จะมีชาร์โคลเป็นส่วนประกอบ แต่ก็อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ และมีเนื้อยาสีฟันที่นุ่มละเอียดไม่ทำร้ายฟัน  เพราะคิดค้นขึ้นสำหรับกลางคืน เหมาะจะใช้ก่อนนอน  เป็นสูตรที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย  ขจัดคราบอาหาร  และฟื้นฟูผิวฟันที่ผ่านการใช้งานมาตลอดวันอย่างอ่อนโยน ในระหว่างการนอนหลับ

 

 

            วิธีที่จะใช้ให้ได้ผลที่สุดก็คือ การใช้ยาสีฟัน  Linee เดย์แอนด์ไนท์ควบคู่ไปพร้อมกัน โดยใช้สูตรเดย์ในตอนเช้า และใช้สูตรไนท์ตอนก่อนนอน  เป็นประจำทุกวัน  ด้วยการแปรงฟันที่ทั่วถึงอย่างถูกวิธี  วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน  เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องก็จะเห็นผลถึงสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง  และฟันขาวสะอาดขึ้น

 

ถ้าไม่อยากใช้ “ชาร์โคล” จะแก้ปัญหา “ฟันเหลือง” ด้วยตัวเองอย่างไร ?

 

            อยากมีฟันขาว แต่ชาร์โคลก็ช่วยไม่ได้เต็มร้อยอย่างที่คิด จะเข้าคลินิกฟอกฟันก็อาจเป็นเรื่องไม่สะดวกสำหรับใครหลายคนในสภาวะเช่นนี้  วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การฟอกฟันขาวด้วยตัวเองที่บ้าน  เช่น เครื่องฟอกฟันขาวที่บ้าน  ที่ช่วยให้เราสามารถฟอกฟันด้วยตัวเองได้ ซึ่งในปัจจุบัน  การฟอกฟันขาวด้วยตัวเองมีประสิทธิภาพ  ทำได้ไม่ยาก และปลอดภัย

 

 

 

 

          และล่าสุดไม่ใช่แค่เครื่องฟอกฟันขาวเท่านั้น   Linee  ยังมีนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า ปากกาฟอกฟันขาว Linee Whitening Gel Pen มาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับทุกคน  โดยปากกาฟอกฟันขาวใช้ง่ายยิ่งกว่าเครื่องฟอกฟันขาว  โดยการใช้งานเพียงแค่นำปากกาฟอกสีฟันทาบริเวณผิวฟันโดยตรง  สะดวกสบายแม้แต่บริเวณซอกฟัน และใช้เวลาไม่นาน  เจลจากปากกาก็อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองในช่องปาก เพราะใช้สูตรเดียวกับคลินิกทันตกรรม และได้รับมาตรฐานจาก อย.  เป็นทางเลือกที่ง่ายเพื่อฟันขาวแข็งแรงด้วยตัวเอง

 

 

          แม้จะมีการวิจัยค้นพบว่า “ชาร์โคล” ไม่ได้ช่วยให้ฟันขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเหมือนที่เคยคิดไว้ แต่เมื่อรวมกับส่วนประกอบหลาย ๆ อย่างในปัจจุบัน ชาร์โคลก็ยังคงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก และใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้มากมาย ถ้าเรารู้จักใช้อย่างเหมาะสม

 

 

กลับไปยังบล็อก