การจัดฟัน ถือเป็นทันตกรรมความงามอย่างหนึ่งที่ช่วยรักษาฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติ เช่น ฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง ฯลฯ โดยการทำให้ฟันเคลื่อนไปในตำแหน่งที่เรียงตัวดีขึ้น ในปัจจุบันการจัดฟันมีหลายรูปแบบให้เลือก แต่การจัดฟันจะเหมาะกับคนทุกวัยหรือไม่ แล้วถ้าต้องจัดฟัน เราจะทำอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาฟันผุ ฟันเหลือง และยังคงมีฟันขาวแข็งแรงได้ ไปค้นหาคำตอบกันค่ะ
การจัดฟันมีประโยชน์ คือ
1.ปรับแนวฟันให้เรียงตัวเป็นระเบียบ เสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้ดีขึ้น
2.เพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว
3.ลดปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ เพราะการเรียงตัวของฟันที่ไม่เป็นระเบียบจะทำให้เกิดการสะสมของเศษอาหารได้ง่าย แต่ทำความสะอาดได้ยาก
4.การจัดฟันอาจส่งผลให้รูปปาก และโครงหน้าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
การจัดฟันเหมาะกับคนอายุเท่าไหร่ ?
การจัดฟันคือการปรับตำแหน่งฟันที่เรียงตัวผิดปกติไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งการเคลื่อนที่ของฟันและกระดูกที่รองรับมันมีการทำลายของเก่าและสร้างใหม่เกิดขึ้น วัยที่เหมาะจึงเป็นช่วงอายุที่ยังสร้างกระดูกรอบๆ รากฟันได้ อายุ 10 - 15 ปีจึงเหมาะที่สุด แต่ทุกอย่างต้องแล้วแต่การวินิจฉัยของทันตแพทย์ และปัจจุบัน คนวัยผู้ใหญ่ก็สามารถจัดฟันได้ โดยมีขั้นตอนก่อนตัดสินใจ ดังนี้
- ถามตัวเองว่าต้องการจัดฟันเพื่ออะไร จำเป็นแค่ไหน
- อย่าคาดหวังเกินไป ต้องยอมรับก่อนว่าการจัดฟันมีข้อจำกัดเฉพาะแต่ละบุคคล
- การจัดฟันในผู้ใหญ่ต้องใช้เวลานานกว่าเด็ก คุณพร้อมแค่ไหน
- ด้วยสุขภาพช่องปากของผู้ใหญ่ ระหว่างจัดฟันอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น เหงือกร่น เหงือกอักเสบ ต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม
- ถ้าทันตแพทย์เห็นว่าไม่ควรจัดฟันก็ควรเชื่อคำแนะนำของทันตแพทย์ เพราะผู้ใหญ่มีข้อจำกัดทางสุขภาพมากกว่าเด็ก แต่หันไปดูแลสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงขึ้นดีกว่า
การจัดฟันโดยทั่วไปมี 4 ประเภท ดังนี้
- การจัดฟันแบบโลหะ
เป็นการจัดฟันที่เราคุ้นเคย มีเครื่องมือโลหะสีเงินติดอยู่บนผิวฟัน เรียกว่า แบร็กเก็ต (Bracket) มีการใส่ ยางรัดฟัน (Oring) สีสันสดใส ที่ใช้รัดลวดจัดฟันให้ติดกับแบร็กเก็ตเพื่อดึงฟันให้เคลื่อนไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นที่นิยมของวัยรุ่น เพราะราคาไม่สูงมาก เปลี่ยนยางได้บ่อยเท่าที่ต้องการ และช่วยจัดฟันได้เกือบทุกรูปแบบ แต่ก็มีข้อเสียคือ ต้องไปพบทันตแพทย์บ่อย ๆ แทบทุกเดือน เพื่อปรับเครื่องมือ
- การจัดฟันแบบเซรามิก
เป็นการจัดฟันคล้ายเครื่องมือแบบโลหะ เพียงแต่แบร็กเก็ตเป็นเซรามิกที่มีสีกลมกลืนกับฟัน แต่ยางรัดฟันยังมีหลายสี และลวดดัดฟันยังเป็นโลหะเงิน เป็นการจัดฟันที่เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย ที่ทำให้ดูโดดเด่นเกินไป ดูแลรักษาง่ายกว่าแบบโลหะ ใช้จัดฟันได้เกือบทุกรูปแบบ แต่ข้อเสียคือ วัสดุที่ทำจากเซรามิกแตกหักได้ง่าย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบโลหะ และเหมาะกับการจัดฟันแบบใช้เวลานาน 2 - 3 ปี
- การจัดฟันแบบดามอน
เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ ดามอน (Damon System) มี 2 รูปแบบ คือ แบบติดเครื่องมือโลหะ และแบบใส แต่ไม่ต้องใส่ยางรัดฟัน เพราะมีลักษณะการทำงานแบบเทคโนโลยีพิเศษ Self-ligating Braces ที่เป็นเครื่องมือแบบบานพับ ทำให้ไม่เจ็บเท่าแบบโลหะหรือเซรามิก และอาจไม่ต้องถอนฟัน แต่ช่วยให้ฟันเรียงกันได้เร็วขึ้น และการใช้ลวดชนิดพิเศษช่วยลดโอกาสเกิดการระคายเคืองในช่องปาก ทำความสะอาดฟันและช่องปากได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย ช่วยจัดฟันได้เกือบทุกรูปแบบ แต่มีค่าใช้จ่ายสูง และทำให้เกิดหินปูนได้ง่ายกว่าแบบอื่น
- การจัดฟันแบบใส
มีสองอย่างคือ อินวิสไลน์ (Invisalign) และ เคลียร์อะไลน์เนอร์ (Clear Aligner) เป็นการจัดฟันแบบไม่ใส่ลวด ไม่ใช้เครื่องมือยึดติดฟัน แต่ใช้อุปกรณ์แบบถอดได้ที่ทำจากพลาสติกใสชนิดพิเศษ เป็นที่นิยมในหมู่ดาราและคนดัง เพราะไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือทุก 1 - 2 เดือนจนกว่าฟันจะเข้าที่
ทั้งสองแบบมองเผิน ๆ แทบไม่ต่างกัน แต่แบบอินวิสไลน์เป็นการสั่งทำเครื่องมือจัดฟันเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 3D วิเคราะห์ว่าต้องใช้เครื่องมือแบบใด กี่ชุด แล้วให้แล็ปที่อเมริกาทำส่งกลับมา เหมาะกับคนที่จัดฟันครั้งแรก ช่วยแก้ปัญหาฟันที่ซับซ้อนได้ ส่วนการจัดฟันแบบบเคลียร์อะไลน์เนอร์ทันตแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและออกแบบเครื่องมือจัดฟันเองโดยไม่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องให้แล็ปที่อเมริกาทำ เหมาะกับคนที่มีปัญหาฟันน้อย หรือคนจัดฟันรอบสอง การจัดฟันแบบใสเหมาะกับคนทุกช่วงอายุ พบการระคายเคืองในช่องปากน้อย ลดความเสี่ยงเหงือกอักเสบเพราะลวดดัดฟัน ถอดและใส่ได้ง่าย ช่วยให้ฟันเข้าที่เร็ว ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย แต่มีค่าใช้จ่ายสูง
วิธีแปรงฟันสำหรับคนจัดฟัน
ใช้แปรงสีฟันและเครื่องมือพิเศษสำหรับคนจัดฟัน ด้วยการแปรงรอบๆ เครื่องมือจัดฟันอย่างละเอียดและทั่วถึง ตามขั้นตอนดังนี้
- แปรงด้านนอกของฟันด้วยการหันแปรงทำมุม 45 องศากับแนวฟัน แล้ววางขนแปรงที่คอฟันตรงขอบเหงือก ปัดขนแปรงไปมาเบา ๆ แล้วปัดขนแปรงไปที่ปลายฟัน
- แปรงบริเวณเครื่องมือจัดฟัน ด้วยการวางขนแปรงบนแบร็กเก็ตแล้วหมุนขนแปรงวนเป็นวงบนเหล็กจัดฟัน
- แปรงด้านในฟันด้วยการวางขนแปรงที่คอฟันด้านในติดขอบเหงือกแล้วขยับขนแปรงปัดมาทางปลายฟัน
- การแปรงฟันกรามที่ใช้บทเคี้ยวให้แปรงเข้าออกตามแนวฟันกราม
- เพิ่มเวลาในการแปรงฟันแต่ละครั้งให้นานขึ้น นอกจากตอนเช้าและก่อนนอน ควรแปรงฟันหลังการรับประทานอาหารทุกครั้ง
การใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน
คนจัดฟันจึงควรใช้ไหมขัดฟันเสริมด้วย ปัจจุบันมีไหมขัดฟันสำหรับการจัดฟันโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็นเส้นปลายเรียว ตรงกลางค่อนข้างฟู เมื่อใช้ขัดฟันเส้นไหมจะขยายตัวช่วยให้ทำความสะอาดเศษอาหารบริเวณซอกฟันได้ดียิ่งขึ้น ลดการสะสมของแบคทีเรียและคราบพลัคที่ทำให้เกิดหินปูน วิธีใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน คือ สอดปลายไหมขัดฟันที่มีลักษณะเรียวเข้าไประหว่างเครื่องมือจัดฟัน แล้วใช้ส่วนตรงกลางที่ฟูกว่าขัดถูขึ้นลงอย่างเบามือที่ซอกฟัน และใต้ลวดดัดฟัน ทำอย่างพิถีพิถันอย่างน้อยวันละครั้ง
การใช้แปรงซอกฟันสำหรับคนจัดฟัน
แปรงซอกฟันเป็นเครื่องมือทำความสะอาดช่องปากอีกชิ้นที่คนจัดฟันต้องมี ด้วยลักษณะคล้ายแปรงล้างขวดที่มีขนแปรงเรียวเล็ก ทำให้เข้าทำความสะอาดซอกฟันได้ดีกว่าแปรงสีฟันทั่วไป วิธีใช้คือ ให้สอดหัวแปรงที่ค่อนข้างเล็กไปด้านใต้แบล็คเก็ต แล้วแปรงบริเวณช่องว่าง รวมถึงซอกฟันเบา ๆ ให้รู้สึกว่าขนแปรงสัมผัสกับฟัน ค่อย ๆ ทำความสะอาดให้ทั่วทั้งปาก
ใช้แอร์โฟลว์เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
แอร์โฟลว์ คือ อุปกรณ์ขจัดคราบฟันด้วยการพ่นละอองที่มีส่วนผสมของน้ำ อากาศ และผงขัดทำความสะอาดพิเศษ (Phophylaxis Powder) ที่ผลิตมาให้ไม่ระคายเคืองเหงือก แต่ช่วยทำความสะอาด ขจัดคราบสีฟัน คราบจุลินทรีย์ แล้วยังช่วยเคลือบฟัน เข้าถึงได้แม้ในจุดที่เข้าถึงยากเช่นบริเวณซอกฟัน และใต้เครื่องมือจัดฟัน เป็นต้น
แก้ไขปัญหากลิ่นปากขณะจัดฟัน
อีกปัญหาที่คนจัดฟันกังวล คือ กลิ่นปาก ที่เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปากอันเนื่องมาจากเศษอาหารตกค้างอยู่ สิ่งที่ควรทำเพื่อแก้ไขปัญหากลิ่นปากคือ
- แปรงฟัน และแปรงซอกฟันกับเครื่องมือจัดฟันให้สะอาดยิ่งขึ้น
- ใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยลดกลิ่นปาก
- พยายามจิบน้ำระหว่างวันบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในช่องปาก
- แปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกครั้ง แต่ถ้าไม่สะดวกให้บ้วนปากแทน
แก้ปัญหาฟันเหลืองระหว่างจัดฟัน ทำอย่างไรดี ?
- งดอาหารและเครื่องดื่มที่จะเพิ่มความฟันเหลืองให้กับฟันของเรา เช่น ชา กาแฟ เป็นต้น
- ใครที่สูบบุหรี่ควรลด หรือเลิกไปเลยยิ่งดี เพื่อลดอาการฟันเหลืองไม่ให้เป็นมากขึ้น
- ใช้ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่งเพื่อลดอาการฟันเหลือง
- พบทันตแพทย์เพื่อใช้แอร์โฟลว์ทำความสะอาด ล้างคราบสีบนผิวฟัน
- คนที่จัดฟันแบบติดเครื่องมือไว้ในช่องปากสามารถขูดหินปูนลดคราบที่ผิวฟันได้ แต่ยังไม่ควรฟอกสีฟัน แต่คนจัดฟันแบบใสฟอกสีฟันได้ โดยการซื้อเครื่องฟอกฟันขาวมาทำเองที่บ้าน
–
วิธีดูแลสุขภาพช่องปากระหว่างจัดฟัน คือ
- งดเคี้ยวหมากฝรั่ง เลี่ยงรับประทานอาหารแข็ง & เหนียว ที่ทำให้เครื่องมือจัดฟันเสียหายได้ เช่น น้ำแข็ง ทอฟฟี่ ปลาหมึก ฯลฯ
- ลดการดื่ม ชา กาแฟ และ แอลกอฮอลล์ ต้นเหตุของฟันเหลือง
- เลิกพฤติกรรมเอาลิ้นดุนฟัน กัดเล็บ ดูดนิ้ว เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันได้รับความเสียหาย
- หากจัดฟันแบบใส ควรทำความสะอาดเครื่องมือทุกวันด้วยแปรงสีฟัน และน้ำสบู่ผสมน้ำอุ่น
- แปรงฟันอย่างถูกวิธี เป็นประจำทั้งเช้า ก่อนนอน และหลังมื้ออาหาร
- ใช้แปรงสีฟันเฉพาะสำหรับคนจัดฟัน เช่น แปรงซอกฟัน เป็นอุปกรณ์เสริมในการทำความสะอาด
- เลือกใช้ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์
- ถ้าเครื่องมือจัดฟันในช่องปากมีปัญหาให้รีบไปหาทันตแพทย์ อย่าแก้ไขเอง
- เปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน
- ใช้ไหมขัดฟันแปรงฟันทุกครั้ง
- ไปพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่ออัพเดตสภาพฟัน
ถ้ารู้จักดูแลสุขภาพช่องปาก และเครื่องมือจัดฟันอย่างถูกวิธี เมื่อถึงเวลาถอดเครื่องมือจัดฟัน นอกจากฟันจะเรียงสวยแล้ว ยังยิ้มโชว์ฟันขาวแข็งแรงได้อย่างมั่นใจแน่นอน