ความสวยงามแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลักษณะฟันและเหงือกก็ต่างกัน ทำให้รอยยิ้มแต่ละคนมีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่ที่ทุกคนมีเหมือนกันได้คือสุขภาพฟันที่ดี ฟันขาว เหงือกแข็งแรง โดยปราศจากฟันเหลือง หรือปัญหาสุขภาพช่องปาก และวิธีดูแลฟันขาวสุขภาพดีคือ การดูแลรักษาจิตใจ และมองโลกในมุมบวกนั่นเอง
การมองโลกในมุมบวก หรือการคิดได้แง่ดี ไม่ใช่การฟุ้งฝันถึงเรื่องสวยงาม แต่เป็นการอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง แต่รู้จักคิด มีมุมมองต่อชีวิตอย่างมีความหวัง เชื่อว่าสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ ถือเป็นพลังงานทางความคิดที่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ และการดำเนินชีวิต ซึ่งคนมองโลกในแง่บวกจะมีฮอร์โมน คอร์ติซอล (Cortisol) ที่เกี่ยวข้อบกับความเครียดในระดับต่ำจึงสามารถควบคุมระบบประสาทของตนเองได้ดี เมื่อเกิดความเครียดก็รับมือได้ดีกว่าคนมองโลกในแง่ร้ายที่ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มขึ้นจนควบคุมยาก
ความเครียดและการมองโลกในแง่ร้ายส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก ดังนี้
- ขาดความกระตือรือร้นในการดูแลสุขภาพช่องปาก
เมื่อคนเราเกิดความเครียด หมกมุ่นแต่ความคิดแง่ลบ มักปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่สนใจดูแลตัวเองเท่าที่ควร เรียกว่าขาดแรงใจในการรักตัวเองก็ว่าได้ ทำให้เกิดปัญหาฟันเหลือง ฟันผุ ฯลฯ เพราะแต่ละวันแค่แปรงฟันตอนตื่นนอนและก่อนนอนยังไม่อยากทำเลย แถมยังมีพฤติกรรมทำร้ายฟันตัวเองโดยไม่รู้ตัวด้วยบุหรี่ แอลกอฮอลล์ ฯลฯ อีกด้วย
- ระดับ ฮอร์โมน คอร์ติซอล (Cortisol) ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเพิ่มสูงจนควบคุมไม่ได้ ส่งผลให้เกิดโรคในช่องปาก ดังนี้
2.1 เกิดอาการ ปากแห้ง เพราะความเครียดส่งผลให้การผลิตน้ำลายในช่องปากน้อยลง
2.2 เป็น แผลร้อนใน เพราะความเครียดทำให้ฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันไม่ปกติ ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้เกิดแผลร้อนในได้ง่าย
2.3 เป็น โรคเริม ที่ปาก เริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เป็นตุ่มน้ำใส คัน เกิดที่ริมฝีปาก และเกิดขึ้นที่อื่นได้นอกเหนือจากริมฝีปาก ไม่เหมือนแผลร้อนในที่เป็นแผลในช่องปาก แต่แผลร้อนในกับโรคเริมเหมือนกันคือ ยิ่งเครียดยิ่งรักษายาก ทำให้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เรื้อรังอีกด้วย
2.4 มี กลิ่นปาก เกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหนึ่งคือความเครียดที่เกิดจากความคิดในแง่ลบมาก ๆ ทำให้อารมณ์แปรปรวน สารเคมีในร่างกายเปลี่ยนแปลง ส่งผลทำให้เกิดกลิ่นปากได้
2.5 เลือดออกตามไรฟัน เป็นอาการที่คนมองโลกในแง่ร้าย เครียดง่าย เครียดบ่อย เกิดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายตก แบคทีเรียเข้าสู่ช่องปากได้ง่าย ทำให้สุขภาพเหงือกมีปัญหา เกิดเลือดออกตามไรฟันได้ง่าย
2.6 นอนกัดฟัน คนที่หมกมุ่นกับความคิดแง่ลบ มีความเครียดสูง และเครียดบ่อย จะส่งผลทำให้มีอาการนอนกัดฟันโดยไม่รู้ตัว บางคนร้ายแรงจนทำให้ฟันโยก กล้ามเนื้อขากรรไกรมีปัญหา
2.7 กัดฟันโดยไม่รู้ตัว คนที่มีอารมณ์แง่ลบมาก ๆ จนเครียดสะสม อารมณ์แปรปรวน ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งโดยไม่รู้ตัว เวลาทำอะไรอยู่ก็เผลอกัดฟันแน่นและแรงผิดปกติด้วยแรงอารมณ์ ถ้าเป็นมาก ๆ อาจทำให้ฟันแตก ฟันร้าว หรือกระดูกขากรรไกรมีปัญหาได้เช่นกัน
2.8 ฟันสึก หรือฟันร้าว เป็นผลกระทบสืบเนื่องมาจากการนอนกัดฟันหรือเผลอกัดฟันโดยไม่รู้ตัว
2.9 เป็น โรคทีเอ็มดี (TMDs) ความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกรและกล้ามเนื้อบดเคี้ยวข้อต่อขากรรไกร เนื่องจากกัดฟันโดยไม่รู้ตัวและนอนกัดฟัน อ้าปากแล้วจะเกิดเสียงที่ขากรรไกร รู้สึกปวดแปลบ บางครั้งก็ปวดหูและปวดหัว เมื่อเคี้ยวอาหารจะยิ่งปวดทั้งที่ไม่มีฟันผุ ควรรีบรักษา
วิธีลดความเครียด เพิ่มการมองโลกในมุมบวก
- ลดการเข้าโซเชียลมีเดีย
ชีวิตที่ผูกติดกับโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการรับสารมากเกินไป โดยเฉพาะสารเชิงลบ ทำให้ระดับความเครียดเพิ่มขึ้นจนกระทบสุขภาพกายและใจได้ ฉะนั้นควรทำโซเชียลดีท๊อกซ์ด้วยการลดกันใช้โซเชียลมีเดียบ้าง
- ออกกำลังกาย
ลดเวลาเข้าโซเชียลฯ มาเพิ่มการออกกำลังกาย จะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เกี่ยวกับความเครียดลดลง แต่เพิ่มการหลั่งสารเอ็นโดฟินทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมือนได้ใช้เหงื่อล้างความรู้สึกเชิงลบออกไป
- ตั้งสติในการใช้ชีวิต
เมื่อเกิดเรื่องเครียด พยายามอยู่นิ่ง ๆ อย่าคิดฟุ้งซ่าน พาตัวเองไปอยู่ในที่เงียบสงบ เพื่อจัดการความคิด ความรู้สึกตัวเอง ให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน แล้วค่อย ๆ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ปัญหาคืออะไร แก้ไขได้หรือไม่
- หากำลังใจจากคนสำคัญ
เมื่อเกิดความเครียด การได้รับกำลังใจจากใครสักคน เช่น ครอบครัว เพื่อนสนิท หรือแม้แต่แววตาใส ๆ จากสัตว์เลี้ยงก็ช่วยให้ความรู้สึกลบ ๆ ลดลงได้
- ยิ้มให้ตัวเอง
กำลังใจจากใครก็ไม่สำคัญเท่ากำลังใจจากตัวเอง ลองยิ้มให้ตัวเองผ่านกระจก กอดตัวเองให้แน่น ๆ แล้วจะรู้ว่า การยิ้มและให้กำลังใจตัวเองสำคัญที่สุด และส่งผลดีต่อสภาพจิตใจอย่างมาก
เคล็ดไม่ลับฝึกตัวเองเป็นคนมองโลกในแง่บวก
- สังเกตความคิดตัวเอง
แต่ละวันเรามีเรื่องให้คิดนับร้อยนับพันเรื่อง เราควรหมั่นสังเกตความคิด ความรู้สึกตัวเองว่า มีความคิดแง่ลบมากน้อยแค่ไหน มีสาเหตุมาจากอะไร ถ้าเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องที่เกิดขึ้น จะคิดในแง่บวกได้อย่างไรบ้าง
- สะสมเรื่องดี ๆ
ในแต่ละวันพยายามลืมเรื่องไม่ดี แต่ให้ลองสะสมเรื่องดี ๆ ทุกวันด้วยการเขียนบันทึก หรือพิมพ์ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไว้ในโซเชียลมีเดีย ผ่านไประยะหนึ่งจะเห็นความเปลี่ยนแปลงว่า คุณจะมองโลกในแง่ดีเก่งขึ้น เพราะสมองจดจำแต่เรื่องดี ๆ ได้มากขึ้น
- หมั่นพูดคุยกับตัวเอง
การพูดคุยกับตัวเองเป็นเรื่องดี ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เข้าใจความคิด ความรู้สึกตัวเองเพิ่มขึ้น ให้หมั่นบอกตัวเองถึงความคิดในแง่บวก พูดให้กำลังใจตัวเองเสมอด้วยคำพูด เช่น ฉันทำได้ ฉันจะทำให้เต็มที่ ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น เป็นต้น
- อยู่กับปัจจุบัน
มองโลกในแง่บวกไม่ใช่ความโลกสวย แต่เป็นการบอกตัวเองให้อยู่กับความจริงที่เกิดขึ้น ไม่คิดลบมากเกินไป คนเรามักกลัวสิ่งที่มาไม่ถึง คิดลบว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดี ดังนั้นลองปล่อยวาง อยู่กับปัจจุบัน ไม่คิดมากเรื่องอนาคต และเลิกบ่นถึงอดีต แล้วคุณจะเครียดน้อยลง
- ตั้งสติ มีสมาธิ
สมาธิเป็นเรื่องสำคัญในการใช้ชีวิต มีการวิจัยมากมายยืนยันว่าคนที่มีสมาธิ รู้จักฝึกฝนจิตใจและสมองไม่ให้ฟุ้งซ่านได้ รู้เท่าทันความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง รู้จักปล่อยวางความรู้สึกลบ และอยู่กับความเป็นจริงอย่างเข้าใจ จะมีสุขภาพแข็งแรงกว่าคนที่มองทุกอย่างในแง่ลบ
- เลิกโทษทุกอย่างซะที
การมองโลกในแง่บวก ต้องรู้จักเลิกโทษทุกอย่าง เพราะมันมีแต่ทำให้รู้สึกแย่ เวลาเกิดอะไรขึ้นก็หงุดหงิด หาที่ระบาย ว่าเพราะคนนั้น เพราะเรื่องนี้ รวมถึงการโทษตัวเอง เช่น ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้น ฉันคงไม่เป็นแบบนี้ การโทษทุกอย่างรวมทั้งตัวเองไม่มีประโยชน์ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วแก้ไขไม่ได้ แต่เราควรมีสติรู้ว่าปัจจุบันควรทำอย่างไรให้ดีที่สุดต่างหาก
- หาต้นแบบ
ถ้ารู้สึกว่าการเริ่มด้วยตัวเองมันยากเกินไป ลองหาต้นแบบมาเป็นแรงบันดาลใจในการปรับทัศนคติ และฝึกมองโลกในแง่ ต้นแบบที่ว่าอาจเป็นใครสักคนที่มีทัศนคติในทางบวก เป็นคนที่เราชอบหรือชื่นชม เช่น นักคิด คนดัง ศิลปิน ไอดอลคนโปรด เมื่อมีต้นแบบที่ดีก็จะช่วยให้เรามีแรงผลักดันที่จะมองโลกให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้
- ฝึกยิ้มและหัวเราะให้ตัวเอง
การยิ้มและหัวเราะเป็นตัวชี้วัดความสุขในการใช้ชีวิต ถ้าวันไหนเราได้ยิ้มหรือหัวเราะ (จากใจ) บ่อย ๆ แม้ในสถานการณ์ที่แย่ ๆ หากเราฮึดแล้วยิ้มสู้ให้กับตัวเอง ความรู้สึกไม่ดีจะหายไปเร็วกว่าการบ่นหรือพูดถ้อยคำไม่ดีออกมา และถ้าเราหมั่นสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ตัวเองเพิ่มด้วยการรู้จักผ่อนคลาย เช่น คุยกับเพื่อน เล่นกับสัตว์เลี้ยง ดูหนังตลก ฟังเพลง ไปเที่ยว หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ ก็ยิ่งช่วยส่งเสริมให้จิตใจเราแข็งแรงขึ้น
- เลือกคบเพื่อนสายบวก
เพื่อนสายบวกในที่นี้ไม่ใช่คนที่พร้อมมีเรื่องกับคนอื่น แต่หมายถึงเพื่อนที่เป็นพลังบวกให้เรา เป็นคนที่มีการมองโลกในแง่บวก ร่าเริงแจ่มใส คอยเตือนสติเราเมื่อเจอปัญหา อยู่ใกล้แล้วเรามีแรงใจเหมือนได้ชาร์ตแบตเตอรี่ ถ้าคุณมีเพื่อนแบบนี้ ชีวิตก็จะมีแต่ความแฮปปี้แน่นอน
ในเมื่อการมองโลกในแง่บวกส่งผลดีแบบนี้ เราลองยิ้มกว้าง ๆ แล้วปรับมุมคิด เปลี่ยนมุมมองไปในทางสร้างสรรค์ เพื่อสุขภาพฟันขาว และรอยยิ้มสุดแฮปปี้กันเถอะ